“จุลพันธ์” โวธ.ค.เปิด 3 ชื่อแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย มีตื่นแต้นแน่นอน ลั่นยื่นซักฟอกตามมาตรา 151 นายกฯยุบสภาฯไม่ได้

“จุลพันธ์” เมิน 3 แคนดิเดตนายกฯ ภท. บอกรู้อยู่แล้วตัวจริงคือ “อนุทิน” ส่วนอีก 2 ชื่อ ต้องพิสูจน์ตัวในเส้นทางการเมือง แย้ม ธันวาคมนี้เพื่อไทยพร้อมเปิด เชื่อ ตื่นเต้นประทับใจแน่ มอง บ้านใหญ่ไหลเข้าภูมิใจไทย เป็นเรื่องปกติก่อนเลือกตั้ง ชี้ พท. โฟกัสเรื่องตัวเอง รักษาจุดแข็งเดินหน้าสู่ชัยชนะ ต่อมาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลั่นยื่นซักฟอก ม.151 ต้องตามใจ “จุลพันธ์” ไม่ใช่ ”อนุทิน“ เหตุเป็นฝ่ายค้านมีอำนาจตรวจสอบรัฐบาล ยันแค่ยื่นญัตติก็ยุบสภาหนีไม่ได้ ชี้ไม่มีอะไรใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ บอกกรอบเวลาไม่ใช่ปัญหา เหลือแค่3 วันก็จะยื่น ทำหยวนๆไม่ได้

“จุลพันธ์” โวธ.ค.เปิด 3 ชื่อแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย มีตื่นแต้นแน่นอน ลั่นยื่นซักฟอกตามมาตรา 151 นายกฯยุบสภาฯไม่ได้ – Top News รายงาน

 

 

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ที่พรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย เปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นความพยายาม และเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรค ที่พยามผสมภาพที่ไม่ได้เป็นฝ่ายการเมืองเข้ามา แต่รู้อยู่ดี ว่า ในข้อเท็จจริง ตัวจริงมีเพียงหนึ่งเดียว คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งคงสลัดภาพความเป็นภูมิใจไทยเก่าไม่ได้ แต่ก็เป็นความพยายามของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งอยู่ที่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีก 2 คน ถือว่า มาเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว ก็ต้องพิสูจน์ ว่า การข้ามจากภาคเอกชนมาสู่การเมืองจะทำประโยชน์ให้กับประชาชนสมความตั้งใจหรือไม่ ต้องดูกันต่อไป

 

ส่วนพรรคเพื่อไทยจะใช้จังหวะไหนเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ กล่าวว่า อยากให้คนรู้สึกอยากรู้ เพื่อที่จะได้ติดตาม แต่คาด ว่า ภายในเดือนธันวาคมนี้จะมีความชัดเจน และเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการพูดคุย หารือ และสรุปผล แต่ไม่ขอเปิดเผย ว่า เป็นคนนอก หรือ คนใน ขอให้รอดูทีเดียว หากให้ข้อมูลก่อน ก็จะไปคาดเดากัน เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ เปิดมาคงจะตื่นเต้นกัน และจะเป็นที่ประทับใจ ขอให้รอเวลา

ขณะที่พรรคภูมิใจไทยเตรียมเปิดตัวบ้านใหญ่ชลบุรี และสุพรรณบุรี ในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ มองอย่างไรที่บ้านใหญ่ไหลไปรวมที่นั่น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เรื่องการขยับสับเปลี่ยนช่วงใกล้การเลือกตั้งเป็นเรื่องปกติ เราไม่ได้พะวงอะไร ซึ่งในส่วนของแต่ละจังหวัดก็มีผู้สมัครเข้ามามากมาย และจะคัดสรรคนที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ทำงานกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง มีอุดมการณ์ตรงกับพรรค และต้องเป็นคนที่มีโอกาสจะได้รับการเลือกตั้ง เราทำงานเต็มที่ทุกเขต เราห่วงเรื่องการทำงานของเรามากกว่า ไม่ได้พะวงเรื่องของพรรคการเมืองอื่น วันนี้เปิดตัวผู้สมัครจังหวัดกำแพงเพชร ก็เป็นทีมที่แข็งแรง ดังนั้น เราก็มีพื้นที่ที่เป็นจุดแข็งของพรรค และจะรักษาจุดแข็ง เดินหน้าสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นาย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่นายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่า หากมีการยื่นอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ก็พร้อมชี้แจง แต่ถ้าเป็น มาตรา 151 นายกฯก็พร้อมยุบสภามองในเรื่องนี้อย่างไรและพรรคเพื่อไทยจะยื่นหรือไม่ ว่าตนเข้าใจว่านายกรัฐมนตรีตอบสื่อ อำนาจในการยุบสภาได้หรือไม่ได้ ท่านใช้คำว่าเอาตาม ”อนุทิน“ แต่ตนมองว่าน่าจะเข้าใจผิด เพราะกระบวนการในการยื่นอภิปรายตามมาตรา 151 ถูกกำหนดชัดว่าเมื่อถูกยื่นแล้ว และใช้คำว่าเสนอญัตติ ไม่ใช่การบรรจุญัตติสู่สภา จะไม่สามารถยุบสภาได้ เพราะฉะนั้นจะไม่มีข้อบังคับการประชุมหรืออะไร ที่ใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ ซึ่งเจตนารมย์ของ รัฐธรรมนูญชัดเจนในเรื่องนี้ กำหนดว่าเมื่อมีการเสนอญัตติแล้ว จะยุบสภาไม่ได้ เพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ดังนั้นมันคงไม่ใช่การตามใจนายอนุทิน แต่กระบวนการในการยื่นตามมาตรา 151 หรือ 152 อันนี้ต้องตามใจ “ จุลพันธ์” ต้องตามใจพวกตนเพราะพวกตนเป็นฝ่ายค้าน เรามีหน้าที่ในการตรวจสอบ ซึ่งกระบวนการตรวจสอบต้องมาดูว่า ความผิดและความเสียหายต่อประเทศอยู่ในขั้นไหน

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นไปตามมาตรา 152 ก็เป็นเพียงการเสนอแนะ รับฟังความคิดเห็น ซึ่งหากตนถามกลับว่าความเสียหาย ความในเรื่องการไปแก้ไขคดีความ เขากระโดงและเรื่องฮั้วสว. หากตนให้ข้อเสนอแนะไปเขาจะแก้หรือไม่ กระบวนการในการทุจริตคอรัปชั่น หากมีเกิดขึ้นแล้วพวกผมเสนอแนะไป มันจะหยุดหรือไม่ เพราะฉะนั้นมันคงไม่ใช่เรื่องของการเสนอแนะเพียงอย่างเดียว มันต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ กระบวนการพวกนี้เป็นอำนาจของฝ่ายค้าน และเป็นอำนาจของสส. ในการเสนอญัตติ ตรงนี้ขอให้พวกตนดำเนินการดีกว่า ท่านในฐานะที่เป็นรัฐบาล เมื่อถูกตรวจสอบแล้ว ก็ควรจะเปิดให้มีการอภิปราย รับฟังตอบข้อซักถามและข้อสงสัย หากท่านตอบได้กระจ่างชัดแน่นอนว่าคะแนนจะเป็นของท่าน เมื่อเดือนหน้าสู่การเลือกตั้งท่านประสบชัยชนะอย่างแน่นอน เราก็อยากให้กระบวนการตามประชาธิปไตยเดินไปตามครรลองของมัน

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีออกระบุว่ารัฐบาลเพิ่งทำงานมาเดือนกว่า นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ในขณะที่รัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นสู่ตำแหน่ง พรรคภูมิใจไทยถูกออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพียงแค่สองสัปดาห์พรรคภูมิใจไทยก็ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพียงแต่วันนั้นเสียงไม่พอ รวบรวมเสียงจากพรรคประชาชนยังไม่ได้ ประจวบกับเหตุการณ์ที่นางสาวแพทองธาร ถูกศาลฯสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ กระบวนการในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจึงได้ยุติและหยุดยั้งไป ดังนั้นตนจึงดูเรื่องความเสียหายต่อประเทศเป็นหลัก และแน่นอนว่าตนก็มีความเป็นห่วงในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ต่างจากพรรคการเมืองอื่น ในชั้นกรรมาธิการแล้วก็ทำงานอย่างเต็มที่ แต่เรื่องการตรวจสอบรัฐบาล คงไม่ได้เอาเรื่องอื่นมาเป็นปัจจัย หากมันเกิดความเสียหายต่อประเทศหน้าที่ของพวกตนในการตรวจสอบ คือทำงานได้เต็มที่ในสภา

เมื่อถามว่าหากดูไทม์ไลน์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ3 คือช่วงสิ้นเดือนธันวาคม และตามกรอบยุบสภา ของรัฐบาลคือช่วงสิ้นเดือนมกราคม จึงเหลือประมาณ1เดือน กรอบเวลาในการยื่นอภิปรายจะไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอบว่า ปัญหามันคงไม่ใช่เรื่องกรอบเวลา ต่อให้เหลือเวลา3วันแล้วมีความเสียหายต่อประเทศ มีการทุจริตคอรัปชั่น แล้วจะให้พวกตนหยวนๆไปเถอะ เราคงทำไม่ได้ เราก็ต้องตรวจสอบก็แค่นั้น หากพวกตนไม่มีหลักฐานที่ดีพอ ไม่มีข้อมูลเป็นที่ประจักษ์ สุดท้ายความเสียหายก็จะเกิดกับพวกตนเอง เพราะฉะนั้นเราจึงต้องระมัดระวัง และตอนนี้เราก็อยู่ในกระบวนการรวบรวมข้อมูลต่างๆได้มากเพียงพอแล้ว มีการตั้งทำงานภายในคณะทำงานภายในขึ้นมาเพื่อที่จะเตรียมการในเรื่องนี้ เชื่อได้ว่ากระบวนการที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและเราจะทำให้ดีที่สุด เพื่อชี้ให้เห็นถึงประเด็นปัญหา ที่มีรัฐบาลนี้อยู่ต่อไป ส่วนหากท่านจะตัดสินใจยุบสภา อันนั้นเป็นอำนาจของท่าน ตนบังคับไม่ได้ และยืนยันว่าวันที่ตนไปคุยกับพรรคประชาชน ก่อนที่เขาจะลงมติเลือกพรรคภูมิใจ เราก็บอกว่าพวกตนจะยุบสภาเลย หมายความว่าพวกตนพร้อม

เมื่อถามว่าหากจะยื่นอภิปรายนั้น จะจำเป็นต้องให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ3ผ่านไปก่อนใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ตอบในจุดนี้ และขอให้มีการหารือ เพราะได้ฝากกับทีมยุทธศาสตร์ของพรรค ในเรื่องการเดินการยื่นญัตติ ในตอนนี้ต้องมีการคุยกัน อย่างละเอียดและต้องดูจังหวะเวลา ที่มีความเหมาะสมที่สุด ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปกลับมา

เมื่อถามย้ำว่าจะเป็นการยื่นญัตติอภิปรายตามมาตรา 151 แน่นอนไม่ใช่ 152 ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่าตนไม่ได้พูดแบบนั้นแต่ขณะนี้ไม่ได้มีการเตรียมที่จะยื่นมาตรา 152

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้แซวว่า พูดขนาดนี้ ก็บอกมาเลยว่ายื่นมาตรา 151 ทำให้นายจุลพันธ์ หัวเราะแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สตูล-เมืองคอนอ่วม! ฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนปชช. ชาวบ้านเร่งขนของขึ้นที่สูง
"ผบ.ฉก.นาวิกโยธินตราด" เมินข่าวกัมพูชาส่งทหาร BHQ ประชิดชายแดน ชี้สร้างข่าวให้ฝ่ายไทยกลัว ยันไทยพร้อมขั้นสูงสุด
AOT เดินหน้าดูแลชุมชนต่อเนื่องปีที่ 8 มอบเครื่องช่วยฟังแก่ประชาชนรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ผู้การโคราช นำร่องผนึกกำลังเปิดยุทธการ ตำรวจอาสา ป้องกันยาเสพติดอาชญากรรม ระดมชุมชนสู้ภัยครั้งใหญ่ หลังสถิติอาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
"จุลพันธ์" โวธ.ค.เปิด 3 ชื่อแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย มีตื่นแต้นแน่นอน ลั่นยื่นซักฟอกตามมาตรา 151 นายกฯยุบสภาฯไม่ได้
แสนสิริเผยโฉม “เศรษฐสิริ เกาะแก้ว รีทรีต” บ้านเดี่ยวลักซ์ชัวรีครั้งแรกในภูเก็ต

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​