ที่จังหวัดนครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางประมุง ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษ และชุดสืบสวนจังหวัดนครสวรรค์ ระดมกำลังติดตามจับกุม นายบุญเลิศ มั่งนิมิตร หรือ “นายยักษ์” อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ที่หลบหนีออกจากการควบคุมตัวเมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา

จากการเปิดเผยของ พ.ต.ต.ชัยชนะ แซ่ตั้ง สารวัตรหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรบางประมุง เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ นายบุญเลิศถูกนำตัวเข้าห้องควบคุมของโรงพัก แต่ระหว่างอยู่ในความดูแล เขาแจ้งว่าหายใจไม่สะดวก เจ้าหน้าที่จึงพาออกมานั่งพักบริเวณหน้าห้องควบคุมตัว จากนั้นนายบุญเลิศได้ใช้ผ้าพันมือทุบกระจกห้องควบคุมและวิ่งพุ่งหนีออกมา ขณะเจ้าหน้าที่พยายามสกัด เขาได้พุ่งตัวชนประตูกระจกด้านข้างถึง 2 บาน จนแตก ก่อนหลบหนีออกจากโรงพักอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านโดยอ้างว่ารถล้มโดยจะขอยืมรถเพื่อนบ้าน แต่เพื่อนปฏิเสธบอกว่าจะไปหาหมอแต่เช้า นายยักษ์เลยเดินทางบ่อดินแคมป์คนงาน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 8 กิโลเมตร

ต่อมา มีรายงานว่า คนสนิทของนายบุญเลิศได้ไหว้วานให้บุคคลที่รู้จักไปซื้อผ้าพันแผลและยาทำแผลให้ผู้ต้องหา โดยผู้ที่ถูกไหว้วานเปิดเผยว่า ได้รับเงิน 200 บาทเพื่อไปซื้ออุปกรณ์ปฐมพยาบาล แต่ได้นำเงินดังกล่าวไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แทน ส่งผลให้ผู้ต้องหาซึ่งมีบาดแผลสาหัสจากการชนกระจก ไม่ได้รับการรักษาเบื้องต้น และทำให้ไม่สามารถหลบหนีต่อไปได้ไกล

ในการนี้ทาง สภ.บางประมุงได้รับการบินสนับสนุนพารามอเตอร์จาก พ.ต.อ.อธิพงษ์ วุฒิวิวัฒนกุล ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรชุมตาบง ได้นำพารามอเตอร์มาบินกดดันให้ผู้ต้องหาทางอากาศ เมื่อทราบจุดจึงส่งสัญญาณให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังตรวจค้นในพื้นที่ป่าโดยรอบ พร้อมตั้งจุดตรวจสกัดเส้นทาง และประสานประชาชนแจ้งเบาะแสเพิ่มเติม รวมถึงตรวจสอบพิกัดสัญญาณโทรศัพท์ของภรรยาผู้ต้องหา พบว่ามีความเชื่อมโยงไปยังบ่อดินแห่งหนึ่ง จึงนำกำลังเข้าปิดล้อม กระทั่งเวลา 17.13 น. สามารถควบคุมตัวนายยักษ์ ผู้ต้องพุ่งชนกระจกหนีได้เป็นผลสำเร็จ
เบื้องต้น นายบุญเลิศมีบาดแผลหลายแห่งจากการพุ่งชนประตูกระจก เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษา ก่อนนำกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




