ราชกิจจาออกประกาศพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 17 จังหวัด มีผล 1พ.ย.นี้ มท.คุมเข้มมาตรการ

ราชกิจจาออกประกาศพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 17 จังหวัด มีผล 1พ.ย.นี้ มท.คุมเข้มมาตรการ

ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่ 18/2564 เรื่อง พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

โดยระบุว่าตามที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปอย่างต่อเนื่องเป็นระยะนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการและเตรียมความพร้อมในการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามแนวทางการจัดเขตพื้นที่สถานการณ์ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 4 (2) ของคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2563 เรื่องแต่งตั้งผู้กำกับ การปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563และที่แก้ไขเพิ่มเติม นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 โดยคำแนะนำของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อโควิด – 19 และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

กระทรวงมหาดไทย จึงมีคำสั่งให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามมาตรการตามข้อกำหนดฯ สำหรับเขตพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ตามบัญชีรายชื่อจังหวัดแนบท้ายคำสั่งนี้

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

สั่ง ณ วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2564

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19

สำหรับพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว(พื้นที่สีฟ้า) รวม 17 จังหวัด
ประกอบด้วย
1.กรุงเทพมหานคร
2. จังหวัดกระบี่
3. จังหวัดชลบุรี (เฉพาะอำเภอบางละมุง เมืองพัทยา อำเภอศรีราชา อำเภอเกาะสีชัง และ อำเภอสัตหีบเฉพาะตำบลนาจอมเทียนและตำบลบางเสร่)
4.จังหวัดเชียงใหม่ (เฉพาะอำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอดอยเต่า อำเภอแม่ริม และอำเภอแม่แตง)
5. จังหวัดตราด (เฉพาะอำเภอเกาะช้าง)
6. จังหวัดบุรีรัมย์ (เฉพาะอำเภอเมืองบุรีรัมย์)
7. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (เฉพาะตำบลหัวหินและตำบลหนองแก)
8. จังหวัดพังงา
9. จังหวัดเพชรบุรี (เฉพาะเทศบาลเมืองชะอำ)
10. จังหวัดภูเก็ต
11. จังหวัดระนอง (เฉพาะเกาะพยาม)
12. จังหวัดระยอง (เฉพาะเกาะเสม็ด)
13. จังหวัดเลย (เฉพาะอำเภอเชียงคาน)
14. จังหวัดสมุทรปราการ (เฉพาะบริเวณพื้นที่ทำอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ)
15. จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เฉพาะเกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า)
16. จังหวัดหนองคาย (เฉพาะอำเภอเมืองหนองคาย อำภอสังคม อำเภอศรีเชียงใหม่ และอำเภอท่าบ่อ) และ
17. จังหวัดอุดรธานี (เฉพาะอำเภอเมืองอุดรธานี อำเภอบ้านตุง อำเภอกุมภวาปี อำเภอนายูงอำเภอหนองหาน และอำเภอประจักษ์ศิลปาคม)

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ไทย–กัมพูชา" จับมือจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา 2 แผ่นดิน สานสัมพันธ์อาเซียน เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก
เด็กไทยแห่เที่ยว “ปราสาทตาเมือนธม” พี่ทหารชื่นใจ-ให้ข้อมูลประวัติศาสตร์
สภ.เมืองพัทยานำร่องภาค 2 อัพสกิลพัฒนาระบบวิเคราะห์อาชญากรรมแบบเรียลไทม์ผ่านโทรศัพท์มือถือ
สธ.แจงสถานการณ์ "โควิด" ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แนะกลุ่มเสี่ยงดูแลสุขภาพ ไม่ประมาท หลีกเลี่ยงชุมชนแออัด
"พิชิต" ขยี้ซ้ำ 5 คนนี้ว่าอย่างไร "แพทยสภา" ชี้ "ทักษิณ" ไม่ป่วยวิกฤต ซัดนี่คือขบวนการโกหก
"อนุทิน" สั่งผู้ว่าฯ ชายแดนใต้ใช้ 4 แนวทางป้องกันเหตุไม่สงบ
ศาลอาญา ยกคำร้อง "ทักษิณ" ขอบินไปกาตาร์ ชี้เป็นหมายนัดส่วนตัว
"หมอตุลย์" เชื่อศาลฎีกาฯนำมติแพทยสภา "ทักษิณ"ป่วยไม่วิกฤต ประกอบไต่สวน รอดู "สมศักดิ์" วีโต้หรือไม่
"ภูมิธรรม" เชื่อ "ทักษิณ" ไปศาลฎีกาฯ ไต่สวนพ้นคุกก่อนคำพิพากษา มั่นใจผลตัดสินไม่กระทบเสถียรภาพรัฐบาล
"สรวงศ์" ย้ำมติแพทยสภา ปม "ชั้น 14" ไม่กระทบนายกฯ ขออย่าโยงเป็นเรื่องการเมือง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น