ชื่อของทักษิณ ชินวัตร ถือเป็นแบรนด์ที่ขายได้ขายดีติดตลาดผู้คนในภาคอีสานเป็นอย่างมากเฉกเช่นเดียวกับชวน หลีกภัย นายหัวลูกแม่ถ้วนที่ถือเป็นของดีมีราคาใน 14 จังหวัดภาคใต้เสมือนกัน หลายปีที่พรรคการเมืองใต้ปีกของทักษิณกวาดชัยชนะอย่างท่วมท้นได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ตั้งแต่สมัยตัวเองที่ทักษิณเป็นนายกฯ 2 สมัย ได้คะแนนเสียงทั่งประเทศแบบถล่มทลาย คำว่าแลนด์สไลด์ก็มาจากการที่ส.ส.พรรคไทยรักไทยของทักษิณชนะการเลือกตั้งแบบท่วมท้นสามารถเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้โดยไม่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ หลายปีที่ผ่านมายุทธศาสตร์สำคัญที่ทำให้พรรคทุนนิยมของทักษิณชนะการเลือกตั้งเสมอมา ตั้งแต่ยุคทักษิณ 2 สมัยช่วงพรรคไทยรักไทยเรืองอำนาจ รวมบริหารประเทศ 5 ปี 222 วัน สมัคร สุนทรเวช ยุคพรรคพลังประชาชน 223 วัน สมชาย วงศ์สวัสดิ์ 75 วัน เรื่อยมาจนถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุคพรรคเพื่อไทย 2 ปี 275 วัน สมรภูมิสำคัญที่ทำให้ทุกคนเป็นนายกฯ คือภาคอีสาน ไม่แปลกที่มีคำพูดที่ว่าใครชนะเลือกตั้งภาคอีสานก็เหมือนได้เป็นนายกฯไปครึ่งตัวแล้ว
สถิติข้อมูลประชากรล่าสุดของภาคอีสานจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ. 2563 มีจำนวนประชากร 21,848,228 คน ขณะที่การเลือกตั้งครั้งที่แล้วเมื่อ 24 มี.ค.2562 ภาคอีสาน 20 จังหวัด แบ่งเขตการเลือกตั้งออกเป็น 116 เขต เกือบครึ่งหนึ่งของส.ส.เขตทั้งประเทศ 350 คน รอบก่อนมีคนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งระบบเขต 11,347,735 ล้านคน พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ได้คะแนนส.ส.เขตไปมากสุด 4,007,276 คะแนน กวาดส.ส.มา 84 คน ได้ส.ส.มาเกือบ 2 ใน 3 ของภาคอีสาน ที่เหลืออีก 32 ตัวก็ไปแบ่งกันระหว่าง พรรคภูมิใจไทยได้ 1,727,752 คะแนนได้ ส.ส. 16 คน พรรคพลังประชารัฐได้ 2,376,411 คะแนน ได้ส.ส. 11 คน พรรคประชาธิปัตย์ได้ 296,308 คะแนน ได้ส.ส. 2 คน พรรคอนาคตใหม่ได้ 1,588,634 คะแนน ได้ส.ส.มา 1 คน พรรคชาติไทยพัฒนาได้ 136,236 คะแนน ได้ส.ส.มา 1 คน และ พรรคชาติพัฒนาได้ 145,433 คะแนน ได้ส.ส.มา 1 คน
จากข้อมูลดิบจะเห็นได้ว่ารอบที่แล้วพรรคก้าวไกลได้คะแนนเขตในภาคอีสานสูงมากถึง 1,588,634 คะแนน แต่กลับได้ส.ส.เขตในอีสานมาแค่ 1 คน ด้วยเหตุที่แม้จะส่งผู้สมัครลงเยอะแต่ก็พลาดเข้าป้ายในลำดับที่ 2 ที่ 3 ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็เป็นการเริ่มต้นการเลือกตั้งครั้งแรกในภาคอีสานที่ดีมากๆ เรียกว่ามีอนาคตเพราะหลายเขตแพ้พรรคเพื่อไทยหรือผู้ชนะในเขตนั้นแค่หมื่นต้นๆหรือไม่กี่พันคะแนน ยิ่งไปไล่ดูคะแนนตกน้ำในระบบเขตของอีสาน จะเห็นได้ชัดว่าผู้สมัครของหลายพรรคได้คะแนนสูงมากหลายเขตเรียกว่าจ่อคอหอยผู้ชนะจากพรรคเพื่อไทยไม่กี่พันคะแนน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คะแนนตกน้ำของ 3 พรรคใหญ่ที่โรมรันพันตูในสนามอีสานเมื่อการเลือกตั้งคราวที่แล้ว 24 มี.ค.2562 จึงมีมากตามไปด้วย กล่าวคือ พรรคพลังประชารัฐมีคะแนนตกน้ำ 1,973,667 คะแนน พรรคอนาคตใหม่มี 1,549,917 คะแนน และ พรรคภูมิใจไทยมี 1,041,714 คะแนน ขณะที่พรรคเพื่อไทยมีคะแนนตกน้ำแค่ 692,857 คะแนน
เลือกตั้งคราวก่อนระบบเขตอีสาน 20 จังหวัดแบ่งเขตใหญ่ได้ 116 เขต มารอบนี้หลังแก้รัฐธรรมนูญใหม่เป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ระบบเขตเปลี่ยนจากเขตใหญ่ 350 เขตให้เล็งลงเป็น 400 เขต ระบบบัญชีรายชื่อจากเดิม 150 คนลดเหลือ 100 คน เพราะฉะนั้นสนามอีสานจะดุเดือดเลือดพล่านเป็นอย่างมาก เพราะการแบ่งเขตจะมากขึ้นจากเดิมมี 116 อาจจะแบ่งได้เป็น 136 -126 เขต เพราะฉะนั้นการต่อสู้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะรุนแรงและหนักหน่วง อย่าลืมว่ารอบก่อนอาจมีแค่พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล เท่านั้นที่แบ่งเค้กกันไป แต่เลือกตั้งคราวนี้มีตัวผู้เล่นมากขึ้นมีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นโอกาสที่พรรคเพื่อไทยบริวารทักษิณจะชนะการเลือกตั้งในภาคอีสานจึงไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
เดิมพรรคเพื่อไทยอาจจะโดน 3-4 พรรครุมในการสนามอีสาน แต่เลือกตั้งคราวหน้าอย่างน้อยจะมีถึง 5 พรรคใหญ่ มุ่งมั่นตั้งตารอบดขยี้บี้เพื่อไทยหมายมั่นปั้นมือเหยียบทักษิณให้จมดิน ด้านรองแชมป์เก่าอย่างพรรคภูมิใจไทยเสี่ยหนูอนุทินกับเฮียเนก็หวังรุกคืบขยายเก้าอี้ภาคอีสานฐานที่มั่นให้มากขึ้น รอบหน้าในอีสานเป้าต่ำๆอย่างน้อยต้อง 25 ตัวขึ้นไป เพราะตอนนี้มีงูเห่ามีส.ส.ย้ายพรรคกันเยอะ ขณะที่พรรคพลังประชารัฐแกนนำรัฐบาล “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็หวังลึกๆว่าพลังภายในของน้องรักอย่าง “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่อุตส่าห์ชงขึ้นมาเป็นเลขาธิการพรรคหมาดๆ แถมโชว์เก็บแต้มหลายเขตในการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาผสมกับพลังกล้วยน้ำหว้า สำคัญสุดคือบารมีและกระแสความนิยมในตัวของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะทำให้พรรคพลังประชารัฐได้ส.ส.ในอีสานเป็นกอบเป็นกำเพิ่มมากขึ้นและคงได้มากกว่า 11 ตัวจากคราวที่แล้วอย่างแน่นอน
ฝากพรรคประชาธิปัตย์แม้อีสานไม่ใช่ฐานสำคัญเหมือนภาคใต้ แต่ “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ก็เชื่อมั่นว่าความเขี้ยวบวกกับประสบการณ์การเมือง และผลงานหลายอย่างของพรรคในช่วงเป็นรัฐบาลน่าจะทำให้พรรคได้ส.ส.เขตอีสานมากถึง 5 คนหรือมากกว่า ส่วนพรรคก้าวไกลพันธมิตรล้มประยุทธ์แกนนำล้มเจ้าสายสีส้ม ล่าสุดประกาศยึดอีสานเป็นสีส้มแตกหักกับโทนี่แล้ว ฝ่าย “เสี่ยทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถึงขั้นประกาศขอเป็นนายกฯในการเลือกตั้งครั้งหน้า เดินเกมส์ลุย 116 เขตส่งผู้สมัครครบทุกคน สุดท้ายที่อาจจะเป็นม้ามืดของการเลือกตั้งเที่ยวหน้าในภาคอีสาน และเป็นพรรคที่โทนี่มิอาจประมาทได้คือพรรคไทยสร้างไทยของ “เจ๊หน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หลังสะสมเสบียงกรังและกระสุนดินดำไว้เพียบ แถมได้นักการเมืองเขี้ยวๆเก่งๆจากพรรคเพื่อไทยไปช่วยหลายคน ทั้งโภคิน พลกุล อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตมท.1 พงศกร อรรณนพพร อดีตรมช.ศึกษาธิการ ต่อพงษ์ ไชยสาส์น อดีตรมช.สาธารณสุข ฯลฯ เที่ยวนี้หวังเปิดตัวอีสานเป็นฐานที่มั่นล่าสุดประกาศนโยบายเงินบำนาญคนแก่เดือนละ 3 พันบาท ข้าวตันละหมื่นห้า ฯลฯ ชิงจังหวะหาเสียงให้ติดหูคนอีสานก่อน
เลือกตั้งคราวหน้าทักษิณอย่าคิดว่าอีสานเป็นของตายเป็นของง่าย อยากได้ตอนไหนก็ได้ง่ายๆ เพราะสนามภูมิครั้งหน้าเจอ 5 รุม 1 ให้เก่งยังไง วิเศษขนาดไหนก็ต้องสะเทือนกันบ้าง นโยบายไม่ดี ผู้สมัครไม่แข็ง เงินไม่ถึงจริง 84 คนที่หวังอาจร่อยหรอลงไปก็ได้ ไอ้ที่หวังแลนสไลด์สุดท้ายอาจจะสูญเปล่าได้ไม่เท่าเก่า ลำพังเอาตัวให้รอดจากโดนยุบพรรคก็เก่งแล้ว คราวก่อนที่โทนี่วีดีโอคอลมาคุยกับลูกพรรค 12 ต.ค.2564 ในโอกาสวันเกิด “เฮียเพ้ง”พงษ์ศักษ์ รักตพงศ์ไพศาล สมุนคู่ใจที่ฝากผีฝากไข้ให้คุมพรรคเพื่อไทยในเวลานี้ รอบนี้นายใหญ่เผลอพูดกับเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สั่งนู้นสั่งนี่ไม่เอาพจมานลงเลือกตั้ง วางกลยุทธ์ไว้แล้วหลายแนวทาง รับรองส.ส.ที่คิดจะหนีจากพรรค รับตังค์เขามาแล้วต้องเอาไปคืน ตบท้ายคุยคำโตเที่ยวหน้าแลนด์สไลด์แน่นอน โฟนมาขนาดนี้ถ้าไม่เรียกว่าครอบงำพรรคจูงจมูกผู้แทนแล้วจะเรียกว่าอะไร
วิษณุอาจบอกว่าไม่พลาดไม่ครอบงำอันนั้นเฒ่าสารพัดพิษเขาหลอกให้ตายใจ ออกตัวขนาดนี้ผิดเต็มๆ ล่าสุดสิระ กับฝ่ายตรงข้ามเป็นพรวนชี้เป้ากันระงม ทักษิณหลุดขนาดนี้เจอยุบพรรคแน่ๆ เพราะเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ ม. 92 แบบเต็มๆ วรรค 4 เขาเขียนชัด ยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งำม่ใช่สมาชิกพรรค ควบคุม ครอบงำ ชี้นำ กิจกรรมของพรรคจนขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม มีโทษยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกก.บห. 10 ปี ก่อนหน้านี้เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ก็ส่งเรื่องร้องกกต.ยุบพรรคดาวเทียมมาทีนึงแล้ว หลังออกหนังสือบังคับส.ส.ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา เข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์กับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ แถมขัดกับรัฐธรรมนูญกฎหมายสูงสุดของประเทศแบบเต็มๆ เจอไป 2 ดอกนี้ งานนี้รับรองบรรดาแกนนำเพื่อไทยหนาวแน่ๆ โดยเฉพาะ 24 กก.บห.ขุนพลแม้วชุดปัจจุบัน จากนี้ไปนอนไม่หลับแน่นอน ก่อนจะไปถึงเลือกตั้งหวังแลนสไลด์ โทนี่และบริวารต้องลุ้นเอาตัวรอดจากการยุบพรรคให้ได้ก่อน
/////////////////////