ด้านนายวันวิชิต บุญโปรง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก้ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงเรื่องนี้เช่นกัน โดยระบุว่า เรื่องใครสั่งหยุดยิง โดยนายวันวิชิตได้เปิดเผยบทสนทนากับพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงกรณีขณะนี้กำลังขบวนการตัดต่อคลิป พยายามบ่งชี้ว่า “ใครสั่งแม่ทัพกุ้งหยุดยิง” โดยเป็นการดิสเครดิตตัว ทำให้ดูเหมือนว่ารัฐมนตรีกลาโหมเกี่ยวข้อง

โดยนายวันวิชิต ได้เผยบทสนทนากับพลเอกณัฐพลเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน เนื่องจากท่านโทรมาถามสอบถามอยากให้มาเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี ซึ่งนายวันวิชิตมีคำถามที่ต้องเคลียร์ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะรับตำแหน่งที่ปรึกษาฯหรือไม่

โดยนายวันวิชิตได้ถามพลเอกณัฐพลว่า การเจรจาลงนามที่กัวลาลัมเปอร์ เพื่อหยุดยิงในเที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฎาคม และการเริ่มต้นยิงปะทะวันที่ 24 กรกฎาคม มีข่าวสั่งให้หยุดยิงภายใน 6 ชั่วโมง เรื่อราวทั้งหมด พี่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือพี่ได้โทรไปหาพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในขณะนั้นหรือไม่ ซึ่งพลเอกณัฐพลได้สาบานและยืนยันไม่เคยโทรไปหาพลเอกบุญสิน หรือสั่งการใด ๆ กับพลโทบุญสิน แม้แต่ ผบ.ทบ.เลย อีกทั้งตนเป็นทหารทำไมจะไม่รู้

นายวันวิชิต จึงถามอีกว่า ถ้าอย่างนั้นเป็นคุณ…ใช่มั้ย พลเอกณัฐพลได้ตอบว่า พี่ไม่ก้าวล่วง และเข้าไม่ถึง…ด้วย” ทำให้นายวันวิชิตได้ตอบไปว่า งั้นผมน่าจะเข้าใจแล้วว่าใคร ขอคิดเองคนเดียวนะครับ ถ้าเป็นอย่างนี้ผมยินดีเข้าร่วมทำงานกับพี่ ซึ่งพลเอกณัฐพลได้ตอบกลับว่า พี่ขออย่างเดียว อย่าอวยหรือแก้ต่างให้พี่ ขอแค่ช่วยเอาความจริงมาบอกประชาชน พี่พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ พี่ห่วงแต่ว่าถ้าอาจารย์เข้ามาตรงนี้ ชีวิตอาจารย์จะไม่เหมือนเดิม มีแรงกระแทกอย่างแน่นอน“

นายวันวิชิต เปิดเผยอีกว่า วันที่ผมตอบรับตำแหน่ง พี่ ๆ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่ติดตาม หรือใกล้ชิดกับแม่ทัพพี่กุ้ง ต่างบอกว่า “ดีแล้ว อาจารย์จะช่วยพี่เล็กได้มาก ช่วยกันคนละไม้คนละมือ คนเข้าใจพี่เล็กผิดไปมาก และชอบเสี้ยมให้ขัดแย้งกับพี่กุ้ง ” ไม่มีเลยทหารสักนายมาห้ามผม หรือห่วงใยว่าอย่าเข้าไปเลย ผมยืนยันไม่ได้รู้จักท่านเป็นการส่วนตัวมาก่อนเลย ผมเองสมัยหนึ่งยังเคยวิจารณ์ให้คุณสุทิน คลังแสง เป็น รมว.กลาโหมต่อไปเลย ให้พลเอกณัฐพลรอก่อน เพราะอยากให้พลเรือนสามารถทำงานกับกองทัพได้

คนมักกล่าวหาใส่ความอย่างมีอคติ ว่าท่านเป็นสปาย เป็นไส้ศึก ผมบอกว่าถ้าคิดอย่างนี้ทั้งกองทัพไทย ก็เป็นไส้ศึกกันหมด ผู้บัญชาการทหารสูงสุดท่านปัจจุบันเติบโตมาจากกรมยุทธการทหารบก ตามรอย ”พี่เล็ก“ มาเลย หรือ เสนาธิการทหารบกเป็นเพื่อนรักสนิทสนมกับ ผบ.ทบ.มาก ท่านยังเป็นน้องรักกับ รมว.กลาโหม ถ้ามีมูลเชื้อความหวาดระแวงกันอย่างนี้ พลเอกณัฐพลไม่น่าจะได้รับการยอมรับจากน้อง ๆ ในกองทัพ ถ้าคนติดตามข่าวสารการเมืองการทหารมายาวนาน ถ้าใครมีชื่อถูกเสนอมาเป็ รัฐมนตรีกลาโหม ถ้า ผบ.ทบ. ไม่เอาด้วย ก็ไปต่อยากนะครับ

นายวันวิชิต เล่าอีกว่า เมื่อผมได้มีโอกาสติดตาม รมว.กลาโหม อาทิ ไปเยี่ยมทหารจากการสู้รบ ไทย-กัมพูชา ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ท่านเองไม่อยากให้ลงข่าว กังวลจะมีคนกล่าวหาว่าสร้างภาพ พวกผมและทีมงานขอร้องและบังคับให้ลงภาพ ลงข่าว จะได้กระทุ้งไปยังส่วนการเมือง พรรคการเมืองให้เข้าใจทหารมากขึ้น ที่เขาทำเพื่อประเทศ ราชบัลลังก์ และประชาชน ทุกวันนี้รัฐมนตรียังไปดอดเยี่ยมทหารชายแดน พาผมไปเยี่ยมทหารเกณฑ์เขามีชีวิตกันอย่างไร ไม่เคยหยุดเสาร์-อาทิตย์

พร้อมทิ้งท้ายว่า นี่คือที่มาความจริงทุกประการ ใครไม่พอใจจะเลิกติดตามผมก็ได้นะครับ ถ้าเนื้อหาไม่ถูกใจใคร แต่ผมทนไม่ได้ขบวนการชี้หน้าใส่ร้ายว่าขายชาติ ใส่คนที่ทำงานด้วยความจงรักภักดี ไม่ปริปากบอกใคร ผมทนไม่ได้จำเป็นต้องชี้แจง ถ้าผมอยู่นิ่งเฉย ไม่ออกมาชี้แจงอะไรบ้าง ผมก็ไม่ควรสอนหนังสือใครได้แล้วครับ