“แม่ทัพกุ้ง” เปิดใจช่วงกัมพูชาเปิดศึกปะทะไทย เจอคำสั่งให้หยุดสู้รบตั้งแต่ 6 ชม.แรก แต่ทหารไทยเลือกลุยต่อ ขอเอาแผ่นดินคืน ย้ำปม “ปราสาทตาควาย” แค่ขอไฟเขียว พร้อมลุย


ข่าวที่น่าสนใจ
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ที่ชุมชนปฐมอโศก พลโทบุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก และในฐานะอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวหลังรับมอบรางวัลเชิดชูนักสู้ผู้กล้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 43 ถึงเบื้องหลังการสู้รบกับกัมพูชาในช่วง 4 วันตอนหนึ่งว่า มีคำสั่งให้หยุดตั้งแต่ 6 ชั่วโมงแรก วันแรกที่ปะทะกัน เขาขอร้องให้หยุดเลย แต่ผมขอไม่หยุด เพราะผมสตาร์ทแล้ว โดยตนขอร้องผู้บังคับบัญชาว่าไม่หยุด ผมขอต่อรองไปหลายวัน บวกลบคูณหารบอกว่าเท่านี้ได้มั้ย ตนบอกไม่ได้ ผมไปต่อก่อน เพราะผมเข้าเกียร์ 1 แล้ว

เมื่อถามว่าพอไม่หยุด คนที่สั่งให้หยุดเขาไม่ว่าเหรอ พลโทบุญสิน กล่าวว่า เขาก็ไปตั้งหลักใหม่ ก็แค่นั้น ถ้าหยุด ผมต้องออกมาพูดว่าใครสั่งให้หยุด แล้วเขาจะอยู่ไม่ได้ เพราะว่าผมจะเอาแผ่นดินคืน แล้วคุณมาหยุด นั่นคือโทษประหารคุณเลยทีเดียว
เมื่อถามว่าได้ถามเหตุผลที่สั่งให้หยุดหรือไม่ พลโทบุญสิน กล่าวว่า ผมคิดว่าผิดแผนเขมร ส่วนเขมรสั่งมาหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ผมว่าเขมรเขาเคยทำแบบนี้แล้วเข้าทางเขาไง เขาจะเอาเรื่องนี้ขึ้นศาลโลก ขึ้นศาลโลกเสร็จ ประเทศไทยบุกเขาใช่มั้ย ตายไป 3 คนแล้ว งั้นเขาขอประท้วงเอาแผ่นดินคืน 3 ปราสาทกับ 1 พื้นที่ นี่คือสูตรของเขา แต่แม่ทัพกุ้งไปรู้แผนเขาอีก และ 3 พื้นที่นี้กูก็ไม่ให้ กูเอาคืนอีกเพิ่มเติมแล้วกัน

ทั้งนี้พลโทบุญสิน ยืนยันไม่ทราบว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น เป็นผู้สั่งหยุดหรือไม่ แต่ผู้ใหญ่บ้านเราในเวลานั้นอาจจะมองในแง่ดี กลัวสูญเสีย กลัวลูกน้องบาดเจ็บ อย่ารบกันเลย แต่ตนคิดต่าง ตนต้องการเอาแผ่นดินที่เขามาอยู่นานแล้ว เช่น ภูมะเขือ และอยากปิดปราสาทตาเมือนธมให้เด็ดขาด ไม่ต้องขึ้นมาอีก เช่นเดียวกับปราสาทตาควาย แต่ขณะนั้นตนเอากำลังมาที่ภูมะเขือก่อน เพราะมันสวยงามมาก จึงเอาตรงนี้ก่อน และวางแผนร่วมกับน้องๆทหารอากาศ และเมื่อจะโยกกำลังมาที่ปราสาตาทควาย ก็หมดเวลาก่อน อย่างไรก็ตามตอนนี้ทหารไทยก็ประจันอยู่กับกัมพูชาอยู่ที่ปราสาทตาควาย และพร้อมเมื่อไฟเขียว วันนี้ก็ได้ ขอให้สั่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น