

วันที่ 6 ต.ค. 2568 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.สินเลิศ ขุสุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต เขต 2 และผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามสิ่งเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 8 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมชาวต่างชาติรายหนึ่ง หลังพบพฤติกรรมติดสติกเกอร์โฆษณาสิ่งเสพติดในพื้นที่ภูเก็ต ซึ่งสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวระดับโลก โดยเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เน้นการสกัดกั้นปัญหาสิ่งเสพติดและสิ่งมอมเมาในทุกมิติ เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่กระจายเข้าสู่สังคม

จากการสืบสวนพบว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล ได้รับแจ้งว่ามีชายชาวต่างชาติติดสติกเกอร์ที่มีข้อความเชื่อมโยงกับสิ่งเสพติด พร้อม QR Code บนเสาไฟฟ้าในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนทราบว่าผู้ก่อเหตุพักอยู่ในวิลล่าแห่งหนึ่ง ย่านซอยปฏัก 20 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ก่อนขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดภูเก็ต และสามารถติดตามจับกุมตัว MR. SEMEN (ขอสงวนนามสกุล) สัญชาติรัสเซีย ได้ที่อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในข้อหา “เป็นผู้โฆษณาสิ่งเสพติดโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลางเสื้อผ้าที่ใช้ในวันเกิดเหตุและสติกเกอร์จำนวนหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลถึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง


พล.ต.ต.สินเลิศ ขุสุม เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่สาธารณะและสื่อออนไลน์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการโฆษณาหรือชักชวนในลักษณะนี้อีก พร้อมขอความร่วมมือจากร้านพิมพ์ป้ายและผู้ประกอบการในพื้นที่ช่วยแจ้งเบาะแสหากพบพฤติกรรมต้องสงสัย ด้านนายเฉลิมพงศ์ แสงดี ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 ระบุว่า รูปแบบการกระทำของกลุ่มนี้มักใช้เทคโนโลยีเปลี่ยน QR Code และแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ เช่น Telegram หรือ Instagram เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ โดยจะให้ผู้สนใจโอนเงินและรับพิกัดซ่อนสิ่งเสพติดตามจุดต่าง ๆ ในหลายจังหวัด เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา เกาะสมุย และกรุงเทพฯ ซึ่งสะท้อนถึงการพยายามแทรกซึมของเครือข่ายข้ามชาติ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและ ป.ป.ส. ภาค 8 จึงยืนยันเดินหน้าปราบปรามอย่างจริงจัง เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยและภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตในฐานะเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างยั่งยืน



จิระชัย เกษมพิมลพร ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.ภูเก็ต

