AFP รายงานว่าเมื่อวานนี้ (พุูธที่ 5 พย.) ประธานาธิบดีคลาวเดีย ไชน์บอมประกาศจะทบทวนกฎหมายว่าด้วยการล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมเรียกร้องให้มีการยกระดับการล่วงละเมิดทางเพศเป็นอาชญากรรมครอบคลุมทั่วประเทศทั้ง 31 รัฐ ไม่ใช่แค่ 20 รัฐและกรุงเม็กซิโกซิตี้อย่างที่เป็นอยู่ หลังจากที่ผู้นำหญิงเม็กซิโกวัย 63 ปี ถูกลวนลามขณะพูดคุยทักทายประชาชนบนท้องถนนใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดี โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 4 พย.ที่ผ่านมา
จากคลิปที่แชร์ในโซเชียลมีเดีย จะเห็นชายที่มีอาการมึนเมาได้เข้ามาโอบไหล่ ขณะมือข้างหนึ่งได้แตะไปที่สะโพกและหน้าอกของผู้นำหญิง และยังพยายามจูบที่ซอกคอ ก่อนที่เจ้าหน้าที่คุ้มกันจะดึงตัวออกไป
ไชน์บอมได้แถลงข่าวในภายหลังยอมรับว่าขณะเกิดเหตุไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อมาดูคลิปจึงได้เข้าใจ และได้แจ้งข้อหาชายผู้ล่วงละเมิดแล้ว ซึ่งล่าสุดตำรวจได้เข้าจับกุมและแจ้งข้อหา “ลวนลาม”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงปัญหาความปลอดภัยของผู้หญิงในเม็กซิโก ที่ต้องเผชิญกับการลวนลามและคุกคามทางเพศจนเป็นเรื่องปกติ โดยข้อมูลของยูเอ็นเผยว่าราว 70% ของสตรีเม็กซิกันที่อายุ 15 ปีขึ้นไปจะถูกคุกคามทางเพศอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต และถูกฆาตกรรมเฉลี่ย 10 คนต่อวัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังสะท้อนถึงระบบคุ้มกันผู้นำประเทศที่ล้มเหลว และเป็นการส่งสารถึงอาชญากรแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบคุ้มกันผู้นำ ขณะที่ตัวไชน์บอมเองก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่เธอยืนกรานที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและเข้าถึงประชาชน แม้บ่อยครั้งนักการเมืองเม็กซิกันจะตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มค้ายาเสพติด

