คลิปใน AFP และที่แชร์ผ่านโซเชียลมีเดียในวันนี้ (อังคารที่ 4 พย.) เผยให้เห็นรถยนต์และตู้คอนเทนเนอร์สินค้าจำนวนมากถูกกระแสน้ำพัดพาไปตามท้องถนนที่เมืองมันดาเว ขณะที่ประชาชนก็หนีตายขึ้นไปอยู่บนหลังคา ตะโกนขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย หลังไต้ฝุ่นคัลแมกีพัดถล่มหมู่เกาะเซบูและเนกรอส ซึ่งอยู่ตอนกลางของฟิลิปปินส์เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาด้วยความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ดอน เดล โรซาริโอ้ หนึ่งในผู้ประสบภัยที่เมืองเซบู ซิตี้เล่าว่าฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้น้ำเริ่มท่วมในเวลาประมาณ 0300 นาฬิกา (0200 นาฬิกาตามเวลาไทย) จากนั้นระดับน้ำก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ชั่วโมงเดียว น้ำท่วมมิดชั้นล่างของบ้านแล้ว ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ออกมาไม่ทัน ต้องหนีขึ้นไปรอความช่วยเหลืออยู่บนหลังคา
เจ้าหน้าที่เมืองเซบูเผยว่าก่อนหน้านี้ได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปอยู่ที่ศูนย์ผู้ประสบภัย 3 แสน 8 หมื่น 7 พันคน แต่เมื่อเช้านี้แม้แต่ศูนย์หลบภัยเองก็ถูกน้ำท่วม นอกจากนี้ผู้ประสบภัยหลายร้อยคนจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ยังอาศัยอยู่ในเต๊นท์ผู้ประสบภัยก็ต้องหนีตายออกไปหาที่หลบภัยแห่งใหม่
เจ้าหน้าที่เผยว่าล่าสุดมีรายงานผุ้เสียชีวิตแล้ว 2 คน ถูกต้นไม้ล้มทับ 1 คนที่จังหวัดโบโฮล อีกคนเป็นผู้สูงอายุถูกน้ำท่วมเสียชีวิตบนชั้นสองของบ้านที่จังหวัดเลเต้
ฟิลิปปินส์เผชิญไต้ฝุ่นถล่มไปแล้วหลายลูกก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามสำนักพยากรณ์อากาศเตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับพายุอีกอย่างน้อย 3-5 ลูกในเดือนธันวาคม
***ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่าเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพฟิลิปปินส์ประสบอุบัติเหตุตกที่บริเวณทางเหนือของเกาะมินดาเนาเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาท่ามกลางลมพายุพัดแรง ขณะมุ่งหน้าไปเมืองบาทวนเพื่อร่วมปฎิบัติภารกิจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม กองทัพกำลังเร่งค้นหาซากเครื่องบิน ซึ่งล่าสุดย้งไม่ทราบว่ามีผู้รอดชีวิตหรือไม่

