“กรมชลประทาน” แจ้ง “เขื่อนเจ้าพระยา” เพิ่มการระบายน้ำ 2,700 ลบ.ม./วินาที เตือนปชช.พื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำเฝ้าระวังใกล้ชิด

ฝนตกหนักหลายพื้นที่ น้ำเหนือเพิ่มต่อเนื่อง กรมชลแจ้งเพิ่มระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา 2,700 ลบ.ม./วินาที เตือนประชาชนพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

“กรมชลประทาน” แจ้ง “เขื่อนเจ้าพระยา” เพิ่มการระบายน้ำ 2,700 ลบ.ม./วินาที เตือนปชช.พื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำเฝ้าระวังใกล้ชิด – Top News รายงาน

กรมชลประทาน

 

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 เวลา 17.48 น. ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน รายงานว่า จากอิทธิพลฝนตกหนักต่อเนื่องในช่วง 2-4 พฤศจิกายน 68 ในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ยม และน่าน ส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าไหลลงสู่แม่น้ำสายหลักและอ่างเก็บน้ำเพิ่มมากขึ้น กรมชลประทาน ได้วางแนวทางการบริหารจัดการน้ำ ดังนี้

1. การบริหารจัดการน้ำตอนบน ได้ใช้ศักยภาพของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ คือ เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และ เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดตรดิตถ์ บริหารจัดการร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ทำการ “หน่วงน้ำ” และเก็บกักน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่างของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้แม้จะมีการหน่วงน้ำจากเขื่อนหลักแล้ว แต่ปริมาณน้ำที่สถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์ ยังคงเพิ่มขึ้นจากฝนที่ตกในพื้นที่ท้ายเขื่อน ทั้ง 2 แห่ง ประกอบกับมีปริมาณน้ำที่ไหลมาสมทบจากแม่น้ำยม และแม่น้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี

ข่าวที่น่าสนใจ

2. การบริหารจัดการเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท เพื่อบริหารจัดการมวลน้ำเหนือที่ไหลลงมา กรมชลประทานจะรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านตัวเขื่อน แต่ด้วยปริมาณฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำส่วนที่เหลือจำเป็นต้องระบายผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราประมาณ 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มต่ำ นอกแนวคันกั้นน้ำเดิมคล้ายกับช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา ได้แก่
– พื้นที่ริมแม่น้ำน้อย–คลองโผงเผง–คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
– อำเภออินทร์บุรี และอำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
– อำเภอป่าโมก และอำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง
– อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท
ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

 

 

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังคงเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์น้ำร่วมกับ กฟผ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝนและน้ำท่า รวมทั้งนำน้ำเข้าสู่คลองชลประทานอย่างเต็มศักยภาพ พร้อมกับติดตั้งเครื่องจักร และเดินเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เร่งระบายน้ำส่วนเกินลงสู่อ่าวไทย เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฝนตกหนักไม่ท้อ ชาวสุราษฎร์ 7 คนถวายความจงรักภักดี
ดร.ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ณพล บริบูรณ์ คณะทำงาน ร่วมฟังสวดพระอภิธรรมศพ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์
ลาดยาว อ่วม! น้ำป่าเทือกเขาแม่วงก์ หลากท่วมถนน ลาดยาว-แม่วงก์ รถเล็กไม่สามารถผ่านได้
"เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ" ทอดพระเนตรการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เรื่องรามเกียรติ์ ตอนสัตยาพาลี เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ "สมเด็จพระพันปีหลวง"
"กองทัพไทย" ยังไม่ปล่อยเชลยศึก จนกว่าจะสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์ ย้ำเงื่อนไข 4 ข้อ "กัมพูชา" ต้องปฏิบัติตาม
บุกทะลายตรวจค้นชุมชนนักค้า กลางเมืองจันท์พบปัสสาวะม่วงเกือบ 100

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​