“ดร.ปณิธาน” ชี้ผลลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา เป็นทางออก 2 ประเทศ ยึดหลักปรองดอง แนะ “นายกฯอนุทิน” ต้องพูดตอกย้ำให้ชัด ไทยต้องไม่เสีย 11 พื้นที่ ยึดจากเขมร


ข่าวที่น่าสนใจ
27 ต.ค.2568 รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ในรายการจับตาประเทศไทย ทางท็อปนิวส์ ถึงผลการประชุมที่มีการลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา โดยมีโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายอันวาร์อิบราฮิมนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอาเซียน ร่วมเป็นสักขีพยานว่า เราก็ไม่เห็นด้วยทั้งหมด แต่เราไม่ได้ยอมรับชื่อที่ติดอยู่บนผนังด้านหลังว่าเป็นข้อตกลงสันติภาพ เราถือว่าเป็นปฏิญาณร่วมกัน เพื่อที่จะเดินไปสู่ความสัมพันธ์ใหม่ ดังนั้นเราอาจจะไม่ได้ประโยชน์มากนักในการรักษาจุดยืนเดิมของเราไว้ แต่ที่ได้ประโยชน์แน่นอน คือการที่กัมพูชาได้เริ่มขยับออกกำลังบางส่วนออกไป แม้ว่านักวิเคราะห์จะบอกว่ามันน้อยมาก แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ที่ยืนยันว่าเขาอาจจะเริ่มดำเนินการตามนี้

ส่วนภาษากายของฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และทรัมป์ที่พูดคุยกระซิบกระซาบกัน ในช่วงที่นายกรัฐมนตรีของไทยกําลังแถลงการณ์นั้น รศ.ดร.ปณิธาน กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสบายใจ ซึ่งเป็นการช่วงชิงจังหวะทางการทูตจากฮุนมาเน็ต ไม่รักษามารยาท ควรจะเอาแผ่นพลาสติกไปกั้นไว้เหมือนยุคโควิด แต่ต้องชมทรัมป์ที่พยายามจะรักษามารยาท ด้วยการไปตบเข่าฮุน มาเนต เพราะน่าจะพอรู้ตัวว่าจะมีคนพยายามแย่งซีน
ส่วนข้อตกลงสันติภาพสองประเทศ เป็นการหาทางลงให้กับกัมพูชาหรือไม่ รศ.ดร.ปณิธาน กล่าวว่า ทั้งสองฝ่าย ข้อตกลงแบบนี้หาทางลงให้กับไทยด้วยและกัมพูชาด้วย แต่ใครจะลงได้มากได้น้อย คงเป็นเรื่องของการปฏิบัติ ซึ่งกัมพูชาก็ได้เริ่มทยอยถอนกําลังทหาร ซึ่งถือว่าเร็วกว่ากําหนด เพราะเพิ่งตกลงตั้งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน หรือ AOT จึงเป็นการชิงความได้เปรียบของกัมพูชา ซึ่งคนไทยหลายส่วนก็อาจจะคิดว่าเป็นความเจ้าเล่ห์ทางการทูตของกัมพูชา
ส่วนข้อตกลงการถอนทหารจะทําให้ไทยสูญเสียพื้นที่ 11 จุดที่ยึดกลับมาได้หรือไม่ รศ.ดร.ปณิธาน เห็นว่าต้องเชื่อนายกรัฐมนตรีที่ไลฟ์สดก่อนการประชุม ที่บอกว่าไม่เสีย อย่างไรก็ตามคนไทยยังไม่สบายใจ ดังนั้นต้องยืนยันให้ชัดเจนว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องพื้นที่ที่เราได้ครอบครองหรือได้ยึดคืนกลับมา ซึ่งการลงนามข้อตกลงนี้ทําให้สงครามคลี่คลายแล้ว และจบแล้วอย่างเป็นทางการ ส่วนจะนำไปสู่การเปิดชายแดนเร็วๆ นี้หรือไม่นั้น อยู่ในเงื่อนไขในข้อตกลง เมื่อ 4-5 ข้อเดินหน้าได้ โดยเฉพาะการปราบสแกมเมอร์ ก็จะต้องตัดสินใจอีกครั้ง แต่ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงโดยเฉพาะ ส่วนปัญหาสแกมเมอร์ที่ทรัมป์ไม่ได้พูดคุยกับฮุนมาเน็ตบนเวทีนี้ คงมีความละเอียดอ่อน เขาคงไม่อยากทําลายบรรยากาศ แต่ก็น่าผิดหวังสำหรับคนไทยและคนที่เป็นเหยื่อทั่วโลก
เมื่อถามย้ำว่าประเทศไทยได้อะไรจากการลงนามครั้งนี้ รศ.ดร.ปณิธาน ชี้ว่าเราได้ยุติการสงครามอีกระดับหนึ่งของกัมพูชา ทําให้กัมพูชาต้องหยุด และเราก็ได้ภาพว่าเรารักสันติภาพ และเป็นฝ่ายที่ยอมรับข้อตกลง ซึ่งหลายส่วนไม่ได้ดีกับเราทั้งหมด แต่ถือว่าเป็นบทบาทของไทยในการปรองดอง และสุดท้ายนายกรัฐมนตรีก็ได้รับความเชื่อมั่นบางระดับ และประเทศไทยได้ถูกมองว่าต้องการเดินไปสู่สันติภาพ ได้ความมั่นใจจากนานาชาติกลับคืนมาอีกส่วนหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น