สหรัฐเปิดดีลกรอบข้อตกลงการค้ากับไทย

วันที่ 26 ตุลาคม 2568 เว็ปไซต์ทำเนียบขาวสหรัฐเผยแพร่แถลงการณ์ร่วมว่าด้วยกรอบข้อตกลงทางการค้าต่างตอบแทนสหรัฐ-ไทย ซึ่งไทยพร้อมยกเลิกภาษีสินค้าสินค้านำเข้าจากสหรัฐมากถึง 99% ครอบคลุมตั้งแต่สินค้าอุตสาหกรรม อาหาร และเกษตรกรรม, ทุ่มเกือบ 880,000 ล้านบาทซื้อเครื่องบิน น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ อาหารสัตว์จากสหรัฐ

สำหรับสาระสำคัญของกรอบข้อตกลงมีดังนี้

-ประเทศไทยจะยกเลิกภาษีสำหรับสินค้านำเข้าประมาณ 99% ของสหรัฐ ซึ่งครอบคลุมสินค้าอุตสาหกรรม อาหาร และเกษตรกรรมทุกประเภทของสหรัฐฯ (เก็บภาษี 0%)

-สหรัฐจะคงอัตราภาษีศุลกากรที่ 19% สำหรับสินค้านำเข้าจากประเทศไทยภายใต้มาตรการภาษีตอบโต้ของทรัมป์ที่ประกาศในวันที่ 2 เมษายน 2568 แต่มีการแก้ไขเพิ่มเติมภายหลัง โดยสินค้าจะต้องมีถิ่นกำเนิดจากประเทศไทย แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนอัตราภาษีศุลกากรสำหรับประเทศพันธมิตรให้ลงไปเหลือ 0%

-สหรัฐและไทยจะทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี ของไทยที่ส่งผลกระทบต่อการค้าทวิภาคี โดยไทยมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขอุปสรรคต่อการส่งออกของสหรัฐหรือการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐมายังไทย ซึ่งรวมถึง: การยอมรับรถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและการปล่อยมลพิษของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ,ยอมรับใบรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA), ยอมรับใบรับรองและกฎระเบียบการอนุมัติก่อนวางตลาด สำหรับเครื่องมือแพทย์และยาโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (US FDA) ที่เป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานไทย, ออกใบอนุญาตนำเข้าเอทานอลจากสหรัฐฯ สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง, แก้ไขกฎหมายศุลกากรเพื่อยกเลิกระบบการให้รางวัลศุลกากรที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดและบทลงโทษทางศุลกากร

-ประเทศไทยจะแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดอุปสรรคต่อสินค้าอาหารและสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ ในตลาดไทย รวมถึงการเร่งรัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และสัตว์ปีกที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานบริการความปลอดภัยและการตรวจสอบอาหารแห่งสหรัฐอเมริกา (FSIS) นอกจากนี้ ไทยจะแก้ไขปัญหาด้านการค้าที่ไม่พึงประสงค์ และให้การรับประกันว่าข้อกำหนดที่บังคับใช้กับผลิตภัณฑ์พืชสวนของสหรัฐฯ รวมถึงผลิตภัณฑ์ DDGS (กากธัญพืชที่เหลือจากขบวนการผลิตเอทานอล ซึ่งนำมาทำเป็นอาหารสัตว์ เช่นกากข้าวโพดหรือถั่วเหลือง) จะต้องเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์และความเสี่ยงเท่านั้น, ไทยยังให้คำมั่นที่จะยอมรับใบรับรองที่หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ตกลงกันไว้ในปัจจุบัน (ทั้งนี้สหรัฐได้ขีดเส้นตายเน้นความสำคัญกับสาระข้อนี้)

-สหรัฐอเมริกาและประเทศไทยจะสรุปข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับมาตรการคุ้มครองสิทธิแรงงานซึ่งเป็นยอมรับในระดับสากล รวมถึงการแก้ไขกฎหมายเพื่อรับประกันสิทธิการรวมตัวหรือการจัดตั้งองค์กรของแรงงานเพื่อการเจรจาต่อรอง, ยกระดับการบังคับใช้กฎหมายแรงงาน โดยมุ่งเน้นที่การแก้ไขในภาคส่วนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการบังคับใช้แรงงานและใช้แรงงานเด็ก

-ไทยมุ่งมั่นที่จะใช้มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในระดับสูง รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งครอบคลุมเรื่องการดำเนินมาตรการเพื่อแก้ปัญหาการค้าผลิตภัณฑ์จากป่าที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย, การส่งเสริมเศรษฐกิจที่ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ, ยอมรับและปฏิบัติตามข้อตกลงขององค์การการค้าโลก (WTO) ว่าด้วยการอุดหนุนการทำประมง, และปราบปรามการประมงผิดกฎหมายรวมทั้งการค้าสัตว์ป่า

-สหรัฐอเมริกาและประเทศไทยจะทำการสรุปข้อตกลงเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ โดยไทยรับปากจะแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่มีมายาวนาน รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการปลอมแปลงเครื่องหมายการค้าและการละเมิดลิขสิทธิ์, องค์กรที่ฉ้อโกง, การหลีกเลี่ยงมาตรการคุ้มครองทางเทคโนโลยี และปัญหาสิทธิบัตรค้างส่ง

-สหรัฐอเมริกาและประเทศไทยจะสรุปข้อตกลงของประเทศไทยเพื่อแก้ไขอุปสรรคที่ส่งผลกระทบต่อการค้า บริการ และการลงทุนที่ผ่านระบบดิจิทัล ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะงดเว้นการจัดเก็บภาษีบริการดิจิทัลหรือมาตรการที่เลือกปฏิบัติต่อบริการดิจิทัลหรือผลิตภัณฑ์ดิจิทัลของสหรัฐอเมริกา; รับประกันให้มีการถ่ายโอน (transfer) ข้อมูลข้ามพรมแดนได้อย่างเสรี; สนับสนุนการยกเว้นภาษีศุลกากรอย่างถาวรสำหรับการส่งผ่านข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในระดับองค์การการค้าโลก (WTO), งดเว้นการกำหนดโควตาภาพยนตร์, ผ่อนคลายข้อจำกัดการถือครองกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติสำหรับการลงทุนของสหรัฐฯ ในภาคโทรคมนาคมของไทย และยกเลิกข้อกำหนดการทำธุรกรรมชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศ สำหรับบัตรเดบิตที่ออกในประเทศไทย

-สหรัฐอเมริกาและไทยจะสรุปข้อตกลงเพื่อแก้ไขพฤติกรรมบิดเบือนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ
– สหรัฐอเมริกาและไทยจะเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติเพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นและนวัตกรรมในห่วงโซ่อุปทานเพื่อแก้ไขข้อปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมของบุคคลที่สาม, และร่วมมือกันในการควบคุมการส่งออก เสริมความมั่นคงด้านการลงทุน และการปราบปรามการหลีกเลี่ยงภาษี

-นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกาและไทยยังรับทราบถึงข้อตกลงทางการค้าที่จะเกิดขึ้นระหว่างบริษัทของสหรัฐและไทยในภาคเกษตรกรรมและภาคการบิน ซึ่งรวมถึง: การจัดซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์, กากถั่วเหลือง และกากธัญพืชสำหรับอาหารสัตว์ มูลค่าประมาณ 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 85,280 ล้านบาท ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องการจัดซื้อพลังงาน ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG), น้ำมันดิบ และก๊าซอีเทน มูลค่าประมาณ 5,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือราว 177,120 ล้านบาท และการจัดซื้อเครื่องบินสหรัฐ จำนวน 80 ลำ มูลค่ารวม 18,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 616,640 ล้านบาท
-ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า สหรัฐอเมริกาและไทยจะจัดการเจรจาและสรุปข้อตกลงว่าด้วยการค้าต่างตอบแทน, เตรียมการลงนามข้อตกลง และดำเนินการตามพิธีการภายในประเทศก่อนที่ข้อตกลงจะมีผลบังคับใช้
https://www.whitehouse.gov/briefings-statements/2025/10/joint-statement-on-a-frameowkr-for-a-united-states-thailand-agreement-on-recipricol-trade/

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ไชยชนก” เปิดเกมรุก "ดีอี-ตร." ร่วมผนึกกำลัง ลุยกวาดล้างสแกมเมอร์ เผยทั่วโลกตระหนัก ยกระดับ Cybercrime เป็น“วาระแห่งโลก”
“นายกฯ อนุทิน” ให้ความมั่นใจ การลงนาม “MOU” แร่ธาตุหายาก ระหว่างไทย-สหรัฐฯ อยู่ภายใต้หลักกม.และรัฐธรรมนูญไทย
MACIF ยักษ์ใหญ่ประกันภัยฝรั่งเศส ยอมรับ ELIDE FIRE ผลิตภัณฑ์ไทย มอบสิทธิพิเศษลดเบี้ยประกันสูงสุด 25%
“ดร.เชษฐา” ชี้ลงนามข้อตกลงไทย-กัมพูชา คุ้มค่า ส่งเสริมภาพลักษณ์รัฐสันติภาพ สะท้อนยุทธศาสตร์การทูตเปลี่ยนรับเป็นรุก
"สหรัฐฯ" เปิดกรอบข้อตกลงสำคัญ บีบไทยเปิดดีลการค้าแลกลดภาษี ครอบคุลมการบิน-พลังงาน มูลค่ากว่า 8 แสนล้าน
รองประธานสภาฯ “ดร.ฉลาด ขามช่วง” ร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายวิทยุ–โทรทัศน์รัฐสภา พิจารณาแผนจัดรายการพิเศษสร้างการมีส่วนร่วมประชาชน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​