หน่วยพิเศษเกาหลีใต้  เข้าพบ “ฮุน มาเนต”  หารือการส่งตัวคนเกาหลีใต้กลับปท. หลังถูกควบคุมตัวในคดีสแกมเมอร์

หน่วยพิเศษเกาหลีใต้  เข้าพบ "ฮุน มาเนต"  หารือการส่งตัวคนเกาหลีใต้กลับปท. หลังถูกควบคุมตัวในคดีสแกมเมอร์

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเกาหลีใต้ ที่นำโดยคิม จีนา รัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศคนที่สอง ได้เดินทางเยือนกัมพูชาอย่างเร่งด่วน ตามคำสั่งของประธานาธิบดีอี แจมยอง เพื่อเข้าพบนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของคณะกรรมการพิเศษ ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เพื่อหารือเกี่ยวกับจำนวนคดีลักพาตัว และการกักขังที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและหารือแนวทางความร่วมมือ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ

การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นในเกาหลีใต้ เกี่ยวกับจำนวนชาวเกาหลีใต้ที่ถูกล่อลวงให้เดินทางไปทำงานในต่างประเทศ ด้วยข้อเสนอที่เป็นงานปลอม โดยเฉพาะในกัมพูชา ก่อนถูกบังคับให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น อาชญากรรมทางออนไลน์, การลักพาตัว, และการกักขังหน่วงเหนี่ยวอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ ก็ได้เข้าร่วมคณะในการเยือนครั้งนี้ด้วย

 

อาจเป็นรูปภาพของ หนึ่งคนขึ้นไป, ห้องข่าว และ ข้อความ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะนี้ คณะทำงานของเกาหลีใต้กำลังดำเนินการประสาน เพื่อให้มีการส่งตัวชาวเกาหลีใต้ราว 60 คน ที่ถูกควบคุมตัวในกัมพูชา กลับประเทศ โดยบุคคลเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์ดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีความพยายามในการร่วมมือกับทางการกัมพูชา เพื่อเร่งติดตามหาตัวชาวเกาหลีใต้อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันที่อยู่ได้ ในขณะนี้

ทั้งนี้ ตามข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้พบว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิงหาคมปีนี้ มีรายงานชาวเกาหลีใต้สูญหายหรือถูกกักขังในกัมพูชาจำนวน 330 ราย โดยในจำนวนนี้ ได้รับการช่วยเหลือและคลี่คลายคดีแล้ว 260 รายในปี 2568 และอีก 210 รายในปี 2567 อย่างไรก็ดี ยังคงมีคดีที่เปิดอยู่ประมาณ 80 คดี และเจ้าหน้าที่ยังเตือนว่า จำนวนผู้ตกเป็นเหยื่อที่แท้จริง อาจสูงกว่านี้มาก โดยหน่วยข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ประเมินว่า อาจมีชาวเกาหลีใต้มากกว่า 1,000 คน ที่ยังคงอยู่ในค่ายหรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์ในกัมพูชา แม้ว่าจะยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ทุกคนมีส่วนร่วมกับกิจกรรมผิดกฎหมายเหล่านั้นหรือไม่ก็ตาม

ในขณะเดียวกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ ได้เปิดเผยว่า กำลังผลักดันแผนการจัดตั้ง เคาน์เตอร์ช่วยเหลือคนเกาหลี (หรือ Korean Desk) ในเมืองสีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นเมืองท่าทางตอนใต้ของกัมพูชา ที่เชื่อว่า เป็นศูนย์รวมขององค์กรอาชญากรรมจำนวนมาก โดย Korean Desk นี้ จะมีลักษณะเป็นโต๊ะให้ความช่วยเหลือแก่ชาวเกาหลีใต้ ภายในสถานีตำรวจของกัมพูชา โดยได้มีการจัดตั้งแล้วในหลายประเทศ เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

 

นอกจากนี้ ทางการเกาหลีใต้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ ไปประจำการในกัมพูชา เพื่อให้ความช่วยเหลือและปกป้องพลเมืองของตน ที่อาศัยอยู่ หรือเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง ทั้งนี้ ตำรวจกำลังเตรียมเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ประจำสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ในกรุงพนมเปญ จากเดิมที่มีอยู่ 3 คน ได้แก่ ผู้ช่วยทูตตำรวจ 1 คน และเจ้าหน้าที่ประสานงานอีก 2 คน เป็นทั้งหมด 8 คน เพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติที่พุ่งสูงขึ้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) สีสันใบไม้แดงแต้ม 'โกรกธารอูเสีย' ในฉงชิ่ง
สวธ. เปิดกิจกรรมแก่นสยาม 2025 มหัศจรรย์ไหกั๊บแก๊บ อากรนฤมิตร ในเทศกาลไหมนานานาชาติ
ลับคมให้ตำรวจด่านหน้า บช.ศ.เปิดโครงการฝึกอบรม 3 หลักสูตรยุทธวิธี เน้นนำความรู้ไปใช้จริง
ส่องลุคแฟชั่นผ้าไทยสไตล์ "ซาบีดา" คล้องผ้าเปียว สวมเสื้อฮี ผ้าทอมือปักลายดอกผักแว่น อัตลักษณ์ชาวไทยทรงดำ จ.กาญจนบุรี
คณะศิษย์พระครูบาแสงทิพย์ สังวโร ทำบุญผ้าป่าสามัคคี สืบทอดพระพุทธสานา
"ซาบีดา" เปิดงาน "ย้อนอดีตศรีสัชนาลัย นุ่งผ้าไทย ใส่เงิน ทอง ลายโบราณ สืบสานวัฒนธรรม อันล้ำค่า ประจำปี 2568" ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​