วันที่ 14 ตุลาคม เว็บไซต์ เดอะ พนมเปญโพสต์ สื่อกัมพูชา เผยแพร่บทความของ ดร.สุน สัม นักวิเคราะห์นโยบายประจำราชบัณฑิตยสถานกัมพูชา มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า กัมพูชาดินแดนใจกลางเอเชียใต้ ยังคงรักษาสถานะของตนในฐานะสัญลักษณ์แห่งความเข้มแข็งและการต้อนรับขับสู้ เพราะประชาชนรักวัฒนธรรมเกาหลีใต้อย่างสุดหัวใจ
ชาวกัมพูชาแสดงให้เห็นถึงความรักที่มีต่อวัฒนธรรมเกาหลีใต้ ตั้งแต่ความรักในเพลงเคป็อปและละครเกาหลี ไปจนถึงความชื่นชมในจิตวิญญาณผู้ประกอบการ “ปาฏิหาริย์แห่งแม่น้ำฮัน”
ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างเกาหลีใต้และกัมพูชาได้พัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิด การเติบโตของการท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน แต่กระแสอาชญากรรมไซเบอร์จากต่างประเทศที่อันตรายกำลังคุกคามความสัมพันธ์นี้ กลโกงที่มุ่งเป้าไปที่เหยื่อจากทั่วโลกกำลังทำลายชื่อเสียงของกัมพูชาในระดับนานาชาติ และสร้างความไม่มั่นคงทางสังคมทั่วประเทศไปพร้อมๆ กัน
รัฐบาลเกาหลีใต้จำเป็นต้องเสริมสร้างการสนับสนุนกัมพูชา เนื่องจากประเทศกำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากอาชญากรรมไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากองค์กรอาชญากรรมต่างชาติ ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและอิทธิพลทางการทูตของเกาหลีใต้ ทำให้เกาหลีใต้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะเป็นผู้นำในการต่อสู้กับอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งจะช่วยปกป้องความรักที่ชาวกัมพูชามีต่อเกาหลีใต้ ขณะเดียวกันก็สร้างอนาคตที่มั่งคั่งและปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับทั้งสองประเทศ
สถานการณ์อาชญากรรมทางไซเบอร์ในกัมพูชามีความร้ายแรงมาก จนปัจจุบันประเทศนี้กลายเป็นศูนย์กลางของการฉ้อโกงระหว่างประเทศโดยไม่ได้ตั้งใจ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลโกงที่แอบอ้างว่าเป็นธุรกิจถูกกฎหมายได้แพร่กระจายไปทั่วจังหวัดสีหนุวิลล์และกัมปอต ปฏิบัติการในกัมพูชาใช้กลุ่มอาชญากรชาวจีนเพื่อดึงดูดผู้หางานชาวเอเชียและชาวต่างชาติ ด้วยข้อเสนองานด้านบริการและงานด้านเทคโนโลยีที่หลอกลวง เหยื่อที่ตกเป็นเหยื่อเหล่านี้ ต้องเผชิญกับการถูกบังคับให้เข้าร่วมในกลโกงออนไลน์ที่ซับซ้อน ซึ่งรวมถึงกลกลโกงแชร์ลูกโซ่ และการฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัลที่ขโมยเงินหลายพันล้านจากเหยื่อทั่วโลก
สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNODC ประเมินว่าเครือข่ายเหล่านี้สร้างผลกำไรที่ผิดกฎหมายต่อปีระหว่าง 2 ล้านล้านถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการปฏิบัติการในกัมพูชา เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์และการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เพียงพอในบางพื้นที่ วิกฤตการณ์นี้มีลักษณะที่แปลกแยกจากต่างประเทศ จึงเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการทางอาญาจากต่างประเทศ
รัฐบาลกัมพูชายอมรับว่าชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในพื้นที่เหล่านี้ ส่วนใหญ่มาจากจีน ใช้ประโยชน์จากกฎหมายที่อ่อนแอและการทุจริต แหล่งฉ้อโกงที่ชาวต่างชาติดำเนินการเหล่านี้ ได้ก่อร่างสร้างตัวขึ้นในกัมพูชา ผ่านโครงสร้างพื้นฐานของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
ตำรวจกัมพูชาได้เข้าตรวจค้นสถานที่ 20 แห่งในปี 2567 ซึ่งส่งผลให้สามารถช่วยเหลือแรงงานที่ถูกค้ามนุษย์ได้หลายร้อยคน แต่สถานการณ์ยังคงควบคุมไม่ได้ การขาดความช่วยเหลือจากภายนอกทำให้ความพยายามเหล่านี้ดูเหมือนการพยายามทำให้พื้นแห้งในขณะที่น้ำยังคงไหลบ่าเข้ามา กระแสอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการโดยต่างชาติยังส่งผลกระทบต่อพลเมืองเกาหลีใต้ ทำให้รัฐบาลโซลต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน
ชายชาวเกาหลีใต้ชื่อปาร์คกลายเป็นเหยื่อรายที่สองของกลโกงที่ดำเนินการโดยชาวจีน เมื่อพบศพของเขาในถังขยะแห่งหนึ่งในกัมปอตในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2568 เขาได้เข้าร่วมกับชาวเกาหลีอีกหลายร้อยคนที่เข้าไปตอบกระทู้หางานที่หลอกลวงบนเว็บไซต์หางานภาษาเกาหลี ซึ่งสุดท้ายแล้วพบว่าเป็นฝีมือของนักต้มตุ๋นชาวจีน ก่อนที่จะบังคับให้เขาเข้าร่วมปฏิบัติการหลอกลวงที่มุ่งเป้าไปที่บริษัทฟาสต์ฟู้ดของเกาหลี
การสืบสวนการเสียชีวิตของเขาเผยให้เห็นรายละเอียดที่น่าวิตกเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวของเขาจากกลุ่มมิจฉาชีพชาวจีน ผลการชันสูตรพลิกศพพบว่าเขาถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ซึ่งรวมถึงใบหน้าบวม ซี่โครงหัก และรอยรัดที่บ่งชี้ว่าถูกกักขังเป็นเวลานาน ปฏิบัติการของตำรวจเผยให้เห็นว่าองค์กรอาชญากรรมชาวจีนได้ดำเนินการหลอกลวงหลายสิบแห่งจากสถานที่แห่งนี้
กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ได้ลงพื้นที่ประท้วงอย่างเป็นทางการต่อเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมขอให้ทางการกัมพูชาดำเนินการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบ ช่วยเหลือครอบครัวผู้โศกเศร้าของปาร์ค
รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังเผชิญกับข้อจำกัดในการดำเนินการ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ช่วยตำรวจประจำสถานทูตในกรุงพนมเปญเพียงคนเดียว และต้องพึ่งพาความร่วมมือจากกัมพูชาในการสืบสวนสอบสวน มีรายงานว่าผู้ช่วยตำรวจผู้นี้กำลังเผชิญกับความท้าทายจากปัญหาด้านเขตอำนาจศาลและข้อสงสัยว่ามีการทุจริตของเจ้าหน้าที่
