AFP และ BBC รายงานคณะกรรมการโนเบลที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ได้ประกาศผู้ชนะรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อเวลา 1600 นาฬิกาที่ผ่านมาตามเวลาไทย (ศุกร์ที่ 10 ตค.) ประกาศว่าผู้ที่คว้ารางวัลเกียรติยศนี้ไปครองคือมาเรีย โครีน่า มาชาโด ผู้นำฝ่ายค้านและนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยชาวเวเนซูเอล่าวัย 58 ปี
ผู้อำนวยการคณะกรรมการโนเบลกล่าวว่ามาชาโดได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ทำงานเพื่อผลักดันสิทธิ์อันชอบธรรมตามหลักประชาธิปไตยให้กับประชาชนชาวเวเนซูเอล่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ถือเป็นตัวอย่างของพลเรือนที่กล้าหาญในภูมิภาคละตินอเมริกา
มาชาโดถูกสั่งห้ามลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว (2567) ซึ่งทำให้ประธานาธิบดีนิโคลาส มาดูโร่ชนะการเลือกตั้ง ขณะที่มาชาโดก็ต้องหลบหนีและอยู่แบบหลบๆซ่อนๆนับแต่นั้นมา
หลังการประกาศผล สตีฟ เชือง ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของทำเนียบขาวออกมาวิจารณ์คณะกรรมการโนเบลว่าให้ความสำคัญกับการเมืองมากกว่าสันติภาพ อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเดินหน้าทำงานเพื่อสร้างสันติภาพ, ยุติสงครามและการสูญเสียชีวิตของผู้คนต่อไป
ทั้งนี้ทรัมป์ตั้งความหวังอย่างสูงที่จะคว้าโนเบลสาขาสันติภาพ ขณะที่พันธมิตรและผู้สนับสนุนทรัมป์หลายคน รวมทั้งนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผุ้นำอิสราเอลได้พยายามเสนอชื่อและเรียกร้องให้ทรัมป์ชนะรางวัลนี้ จากบทบาทผู้ผลักดันสันติภาพกาซา แม้แต่ฮุน มาเน็ต ผู้นำกัมพูชาก็ออกมาสนับสนุนทรัมป์ให้ได้รางวัลนี้จากการเรียกร้องให้ไทย-กัมพูชาเปิดเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาทชายแดน
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการเสนอชื่อผู้เข้าชิงปีนี้หมดไปตั้งแต่ 31 มกราคมก่อนที่ทรัมป์จะจัดตั้งรัฐบาลเสียอีก