“รองนายกฯ สุชาติ” สั่งการกรมทะเล เดินหน้ามาตรการเข้ม รับมือพะยูนตาย-ล่าเอาเขี้ยวพะยูน ย้ำ “ไม่ใช่แค่นับศพ แต่ต้องเปลี่ยนเป็นรักษาชีวิต”

"รองนายกฯ สุชาติ" สั่งการกรมทะเล เดินหน้ามาตรการเข้ม รับมือพะยูนตายและการล่าเอาเขี้ยวพะยูน ย้ำ "ไม่ใช่แค่นับศพ แต่ต้องเปลี่ยนเป็นรักษาชีวิต"

วันที่ 10 ตุลาคม 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงแผนรับมือพะยูนตายและการล่าเอาเขี้ยวพะยูนในปัจจุบัน เนื่องจากสถานการณ์ล่าสุด ในวันที่ 5 ตุลาคม 2568 พบพะยูนถูกตัดหัว บริเวณหน้าหาดบ้านหลังเกาะ หมู่ 7 ตำบลเกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ และจากสถานการณ์การเกยตื้นของพะยูน ในปีงบประมาณ 2566 – 2568 พบพะยูนเกยตื้นทั้งหมด 112 ตัว เป็นพะยูนที่ถูกลักลอบตัดเขี้ยว/หัว จำนวน 8 ตัว และข้อมูลในปีงบประมาณ 2569 พบพะยูนเกยตื้นทั้งหมด 2 ตัว เป็นพะยูนที่ถูกลักลอบตัดเขี้ยว/หัว จำนวน 1 ตัว โดยทั้งหมดถูกตัดหลังตายแล้ว จึงได้สั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการสืบสวนหาผู้กระทำผิดอย่างเร่งด่วน เน้นย้ำ “ไม่ใช่แค่นับศพ แต่ต้องเปลี่ยนเป็นรักษาชีวิต” กำชับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมฯ ได้หารือร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เกี่ยวกับแผนงานโครงการในการป้องกันปราบปรามการตัดเขี้ยวพะยูน พร้อมดำเนินการในมาตรการเชิงรุกแบบบูรณาการ ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน ผ่านแนวทางสำคัญ ได้แก่ การเฝ้าระวังและป้องกัน จัดตั้งทีมลาดตระเวนในแหล่งหญ้าทะเล ใช้เทคโนโลยีโดรนและระบบ citizen science ในการติดตามพะยูน และพิจารณาประกาศเขตคุ้มครองใหม่ การช่วยเหลือฉุกเฉิน โดยตั้งทีมกู้ชีพสัตว์ทะเล พร้อมสัตวแพทย์ประจำในโรงพยาบาลสัตว์ทะเลหายาก (ภูเก็ต/ตรัง) การป้องกันการล่า และลักลอบ ดำเนินการสืบสวนร่วมกับกรมอุทยานฯ และตำรวจในพื้นที่ โดยบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ซึ่งกำหนดโทษสูงสุดจำคุก 15 ปี หรือปรับ 1.5 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ในการจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการวินิจฉัยและการเก็บข้อมูลตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงการฟื้นฟูถิ่นอาศัย เพาะพันธุ์หญ้าทะเลในบ่อกุ้งร้าง กั้นคอกฟื้นฟูหญ้า ฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลเสื่อมโทรม และสร้างการมีส่วนร่วม จัดอบรมเครือข่ายชาวประมง อาสาสมัครช่วยพะยูน พร้อมรณรงค์สื่อสารให้สังคมรู้คุณค่าของพะยูน ลบล้างความเชื่อผิด ๆ ที่เชื่อว่า “เขี้ยวพะยูนเป็นของขลัง”

 

 

 

ดร.ปิ่นสักก์ กล่าวเพิ่มเติมถึง สถานการณ์ประชากรพะยูนในประเทศไทยว่า ปัจจุบันอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง หลังพบว่าจำนวนพะยูนลดลงต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยจากเดิมที่มีประมาณ 280 ตัวในปีงบประมาณ 2565 ปัจจุบันเหลือเพียงประมาณ 203 ตัว แบ่งเป็นฝั่งอันดามัน 187 ตัว และฝั่งอ่าวไทย 16 ตัว สาเหตุหลักมาจากการเสื่อมโทรมของแหล่งหญ้าทะเล ซึ่งเป็นแหล่งอาหารสำคัญของพะยูน อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจล่าสุดพบว่าหลายพื้นที่เริ่มมีการฟื้นตัวของแหล่งหญ้าทะเล ส่งผลให้พะยูนบางส่วนเริ่มกลับมาอาศัยในถิ่นเดิมอีกครั้ง ดังนั้น “อย่าให้ความเชื่อผิดๆ มาทำลาย 1 ชีวิต อย่างไร้ค่า เพราะพะยูนไม่ใช่เพียงสัตว์ทะเลหายาก แต่เป็น ตัวชี้วัดสุขภาพของทะเลไทย การปกป้องพะยูนจึงไม่ใช่แค่การอนุรักษ์สัตว์ชนิดหนึ่ง แต่คือการรักษาระบบนิเวศชายฝั่งที่เป็นทุนชีวิตของชุมชน และเป็นพันธสัญญาของไทยต่อประชาคมโลก”

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ซาบีดา" เผยน้ำท่วมอยุธยา ไม่กระทบโบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ กำชับกรมศิลป์เฝ้าระวังใกล้ชิด พร้อมรุดเยี่ยมให้กำลังพี่น้องไทยมุสลิม
"รมว.ซาบีดา" นำทัพบูรณาการ 33 หน่วยงาน กำหนดแนวทางจัดงานประเพณีลอยกระทง ปี68 ภายใต้แนวคิด "ลอยกระทง ไท ไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่งชุดไทยไปลอยกระทง"
"แม่ทัพกุ้ง" ลั่น "ปราสาทคนา" เป็นของคนไทย ต้องยึดคืนเหมือน "ภูมะเขือ"
"รองนายกฯ สุชาติ" สั่งการกรมทะเล เดินหน้ามาตรการเข้ม รับมือพะยูนตาย-ล่าเอาเขี้ยวพะยูน ย้ำ "ไม่ใช่แค่นับศพ แต่ต้องเปลี่ยนเป็นรักษาชีวิต"
"ซาบีดา" ชวนสวมใส่ชุดไทย ด้วยหัวใจแห่งความภาคภูมิ ร่วมรณรงค์สืบสานความงดงามของ "ชุดไทยพระราชนิยม"
ภูเก็ตจัดงานวันอาหารโลก 2568

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​