วันนี้ (9 ต.ค.68) ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบบ้านแม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ติดตามการตรวจสุขภาพ และประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว ที่เป็นผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา หลังคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้คนต่างด้าวที่พำนักอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว 9 แห่ง ใน 4 จังหวัดชายแดน คือ ตาก แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี และราชบุรี ออกมาทำงานข้างนอก เพื่อเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เนื่องจากองค์กรระหว่างประเทศ มีการปรับลดงบประมาณช่วยเหลือผู้หนีภัยในศูนย์พักพิงฯ ดังนั้น เพื่อมิให้เป็นภาระแก่รัฐบาลไทยเพียงฝ่ายเดียว และเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนทดแทนการขาดแคลนแรงงาน และส่งเสริมสิทธิมนุษยชน จึงจำเป็นต้องผ่อนผันให้คนต่างด้าวกลุ่มดังกล่าว สามารถออกไปทำงานนอกพื้นที่พักพิงฯ ได้
โดยมี นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นพ.สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 2 ผู้แทนกระทรวงแรงงาน และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมติดตามการขับเคลื่อนการตรวจสุขภาพ และซื้อประกันสุขภาพของคนต่างด้าว ในครั้งนี้ด้วย
โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมรับทราบการดำเนินงานฯ และเยี่ยมชมหน่วยบริการเคลื่อนที่ การตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Biometric scan) การตรวจสุขภาพ – ซื้อประกันสุขภาพ การออกใบรับรองแพทย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Medical Certificate) และการซื้อบัตรประกันสุขภาพออนไลน์ เพื่อให้ผู้หนีภัยการสู้รบในพื้นที่พักพิงฯ ออกมาทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีหลักประกันทางด้านสุขภาพ เป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลของประเทศ และเป็นการควบคุมป้องกันโรคในพื้นที่แนวชายแดน
สำหรับศูนย์พักพิงใน จ.ตาก ปัจจุบันมีวัยแรงงานประมาณ 24,000 คน ประสงค์จะทำงานข้างนอกประมาณ 19,000 คน โดยมีความต้องการประกอบอาชีพกรรมกรมากสุด ตามด้วยแรงงานเกษตร และงานช่าง ซึ่งโรงพยาบาล 5 แห่ง ในจังหวัดตาก สามารถให้บริการตรวจสุขภาพคนต่างด้าวรวม 1,200 รายต่อวัน
ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายเร่งรัดให้คนต่างด้าวซื้อประกันสุขภาพ เพื่อลดภาระค่ารักษาพยาบาลของประเทศ ป้องกันและควบคุมโรคระบาดอย่างเป็นระบบ ถือเป็นหนึ่งในนโยบาย Quick Win ของรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข โดยระยะแรกได้จัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service – OSS) นำร่องใน 4 จังหวัดชายแดน ที่มีศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา ได้แก่ ตาก แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี และราชบุรี