สืบแม่จัน ตามรวบคนร้ายรวมหัวชิงทรัพย์เงินสด 1.1 หมื่น

ตร.ชุดสืบสวน สภ.แม่จัน จับกุมคนร้ายรวมหัวชิงทรัพย์เงินสด 1.1 หมื่นบาท หลังจากคนร่วมก่อเหตุชิงแขวนคอตายหนีผิดไปก่อนหน้านี้

วันที่ 30 ก.ย. 68 ที่ สภ.แม่จัน ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.รัฐพล น้อยช่างคิด รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่จัน พ.ต.ท.ศุภกรณ์ชัย เดชายิ้มสวัสดิ์ รอง ผกก.สส. สภ.แม่จัน สั่งการให้ พ.ต.ต.ผดุง ท้ายเรือคำ รรท.สว.สส.สภ.แม่จัน ร.ต.อ.วชิรพัตช์ วรรณสอน รอง สว.สส.สภ.แม่จัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่จัน ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา ได้แก่นายวิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ชาวบ้าน หมู่ 1 ต.แม่คำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และการชิงทรัพย์นั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ”

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 68 เวลาประมาณ 04.00 น. ได้เกิดเหตุชิงทรัพย์เงินสดมูลค่าความเสียหายประมาณ 11,000 บาท เหตุเกิดที่บ้านแม่คำหลังวัด ม.10 ต.แม่คำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยมีนางสุกแก้ว (สงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี ชาวบ้าน ม.1 ต.แม่คำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นผู้เสียหายและผู้บาดเจ็บนั้น จากการสืบสวนติดตามตรวจสอบกล้องวงจรปิด กระทั่งทราบว่าบุคคลที่ก่อเหตุ คือ นายสุรชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ชาวบ้าน ม.14 ต.แม่คำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย จึงได้เชิญตัวนายสุรชัยมาสอบถามข้อมูลและตรวจเก็บตัวอย่าง DNA ที่ สภ.แม่จัน เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 68 เวลาประมาณ 14.00 น. ต่อมาได้ให้นายสุรชัยกลับบ้านเวลาประมาณ 16.00 น.

กระทั่งวันที่ 19 ก.ย. 68 เวลาประมาณ 09.00 น. นายสุรชัย ได้เสียชีวิตโดยการผูกคอตาย จากการสอบถามญาติของนายสุรชัยให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 18 ก.ย. 68 นายสุรชัยได้ดื่มสุรากับนายวิชัย ลูกชายของผู้เสียหาย ที่บ้านของนายสุรชัยจนถึงเวลาประมาณ 18.00 น. จึงได้แยกย้ายกันกลับบ้าน ต่อมาช่วงเช้าของวันที่ 19 ก.ย. 68 ทราบข้อมูลจากญาติว่า นายสุรชัย ได้โทรศัพท์ไปหาใครไม่ทราบ พูดคุยลักษณะมีปากเสียงกัน และหลังจากนั้นญาติก็ได้ไปเรียกให้นายสุรชัยตื่น แต่พบว่านายสุรชัย ได้ผูกคอตัวเองเสียชีวิตแล้ว เหตุเกิดภายในห้องนอนของนายสุรชัย ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวที่นายสุรชัยเสียชีวิต ห่างจากวันที่เกิดเหตุชิงทรัพย์ประมาณ 8 วัน โดยสืบทราบมาว่านายสุรชัยเป็นเพื่อนสนิทของนายวิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ชาวบ้าน หมู่ 1 ต.แม่คำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งนายวิชัยมีความสัมพันธ์เป็นลูกชายของผู้เสียหาย และนายวิชัยกับนายสุรชัยมักจะดื่มสุราร่วมกันอยู่เป็นประจำเกือบทุกวัน

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบความเชื่อมโยงทางโทรศัพท์ของนายสุรชัยและนายวิชัย พบว่ามีการใช้โทรศัพท์ที่สอดคล้องกันก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ โดยก่อนเกิดเหตุเวลา 03.48 น. และหลังเกิดเหตุเวลา 04.15 น. นายวิชัยได้ใช้โทรศัพท์ผ่านสัญญานอินเทอร์เน็ตมือถือ ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อมโยงทางโทรศัพท์ของนายสุรชัย โดยก่อนเกิดเหตุเวลา 03.42 น. และหลังเกิดเหตุเวลา 04.30 น. นายสุรชัยได้ใช้โทรศัพท์ผ่านสัญญานอินเทอร์เน็ตมือถือ จึงได้เชิญตัวนายวิชัยมายัง สภ.แม่จัน

ข่าวที่น่าสนใจ

จากการสอบถามนายวิชัยรับว่าหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อกับนายสุรชัยเป็นหมายเลขโทรศัพท์ที่ตนใช้งานอยู่เป็นประจำ และยืนยันว่าตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. 68 ถึง วันที่ 11 ก.ย. 68 นายวิชัยไม่ได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อกับผู้ใดทั้งสิ้น ทั้งแอพพลิเคชั่นไลน์, facebook, Messerger, และโทรหาผู้ใดเลย และโทรศัพท์มือถือดังกล่าวได้อยู่ติดตัวนายวิชัยอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยให้ผู้ใดยืมใช้ ซึ่งคำให้การของนายวิชัยไม่สอดคล้องกับข้อมูลการใช้โทรศัพท์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้มาจากเจ้าของเครือข่าย ประกอบกับข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว ทราบว่านายวิชัยและนายสุรชัยมีความสนิทกัน และก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 วัน นายวิชัยได้บอกกับนางสุกแก้ว ผู้เสียหาย (มารดาของนายวิชัย) ว่าไม่ต้องใส่สร้อยคอทองคำออกจากบ้านเวลาไปขายของตลาดตอนเช้า ให้ถอดเก็บไว้ที่บ้าน เนื่องจากราคาทองมันแพง ประกอบกับการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบรถจักรยานยนต์มีลักษณะคล้ายกับรถของนายสุรชัยจำนวนหลายจุด และมีลักษณะท่าทางการขับขี่คล้ายกับผู้ก่อเหตุ จากการสืบสวนหาข่าวเพิ่มเติมเชื่อได้ว่ามีบุคคลในครอบครัวเป็นผู้ให้ข้อมูลและชี้เป้าให้กับคนร้ายในการก่อเหตุ ซึ่งเชื่อได้ว่านายวิชัยได้ร่วมกระทำความผิดกับนายสุรชัยจริง

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงมีเหตุจำเป็นที่จะต้องจับกุมตัวนายวิชัยด้วย เนื่องจากมีหลักฐานตามสมควร ว่านายวิชัยกระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจับนายวิชัยได้ จึงได้แจ้งว่าเขาจะต้องถูกจับกุมและถูกควบคุมตัวไปยังที่ทำการเจ้าพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งแจ้งสิทธิ์ของผู้ต้องหาข้างต้นและข้อกล่าวหาให้นายวิชัยทราบว่า “ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และการชิงทรัพย์นั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” นายวิชัยรับทราบและเข้าใจสิทธิ์และข้อกล่าวหาเป็นอย่างดีแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวนายวิชัยมายังที่ทำการ สภ.แม่จัน เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป

 

วิโรจน์ วงศ์ใหญ่ ผู้สื่อข่าวTopNewsทั่วไทย จ.เชียงราย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นฤมล" ร่วมประชุม กศจ.กทม. เห็นชอบจัดการศึกษาพื้นฐานโดยครอบครัว วางกรอบขออนุญาตให้ชัดเจน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ผู้ค้าออนไลน์ในชนบทจีน ใกล้แตะ 20 ล้านราย
"ยังมีเรา" เปิดครัวสนาม ส่งข้าวผู้ประสบภัยน้ำท่วมอ่างทอง
‘มูลนิธิยังมีเรา’ ร่วม ‘ท็อปนิวส์ -เยาวชนคิดดี ’ลุยมอบถุงยังชีพ-น้ำดื่ม เป็นกำลังใจ บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยน้ำท่วม สิงห์บุรี-อ่างทอง
"นายอำเภอท่าศาลา" ร่วมส่ง "นางจิราพร" ครั้งสุดท้าย
สืบแม่จัน ตามรวบคนร้ายรวมหัวชิงทรัพย์เงินสด 1.1 หมื่น

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​