“ชัชชาติ” ยันไม่อุทธรณ์ ศาลปกครองสั่งจ่ายคืนหนี้ BTS “สก.นภาพล” เตรียมกระทู้สดถาม ทำไมยื้อข้ามปี เตือนแล้วอย่าแบกภาระดอกเบี้ยเพิ่ม

"ชัชชาติ" ยันไม่อุทธรณ์ ศาลปกครองสั่งจ่ายคืนหนี้ BTS "สก.นภาพล" เตรียมกระทู้สดถาม ทำไมยื้อข้ามปี เตือนแล้วอย่าแบกภาระดอกเบี้ยเพิ่ม

 

“ชัชชาติ” ยันไม่อุทธรณ์ ศาลปกครองสั่งจ่ายคืนหนี้ BTS “สก.นภาพล” เตรียมกระทู้สดถาม ทำไมยื้อข้ามปี เตือนแล้วอย่าแบกภาระดอกเบี้ยเพิ่ม

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากกรณีที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เปิดเผยถึงคำสั่งศาลปกครองกลางที่ออกมา เป็นสิ่งที่กทม. คาดหมายไว้อยู่แล้ว และได้เตรียมเงินที่จะจ่ายไว้อยู่แล้ว ก็น่าจะไม่อุทธรณ์คดีต่อ คงจะทำเหมือนที่จ่ายเงินให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BTS ในครั้งแรก เพราะว่าถ้าอุทธรณ์ต่อ จะทำให้เสียเวลา และมีผลทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น จริงๆค่าจ้างในส่วนนี้ กทม.เตรียมเงินไว้จ่ายอยู่แล้ว พร้อมยืนยันว่า การจ่ายเงิน 1.1 หมื่นล้าน ไม่กระทบกับงบประมาณปกติของกทม. เพราะเงินที่นำมาจ่ายค่าจ้างนั้น เป็นเงินสะสมจ่ายขาดของกทม.ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งมีจำนวนเงินใกล้เคียงกับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง แต่จำนวนเงินอาจจะยังขาดอยู่นิดหน่อย แต่เดี๋ยวก็ต้องค่อย ๆ คุยกัน สำหรับหนี้ของกทม. กับ BTS นอกจากหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว ก็ยังมีหนี้ส่วนที่เหลืออีกเพียงนิดหน่อยเท่านั้น

นายนภาพล จีระกุล สก.บางกอกน้อย และประธานคณะกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เปิดเผยกับทีมข่าว TOP NEWS หลังศาลปกครองกลางพิพากษาว่า ในการประชุมสภากทม.ที่จะถึง (1 ต.ค.) อาจจะมีการตั้งกระทู้สดเพื่อสอบถามถึงความรับผิดชอบเรื่องภาระดอกเบีัยที่เพิ่มขึ้น หลังศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งให้ กทม. และเคที จ่ายค่าจ้างเดินรถให้กับบีทีเอส หลังจากก่อนหน้านี้ ตนได้เคยเสนอให้ทางกทม. จ่ายค่าจ้างเดินรถที่ค้างชำระให้แก่เอกชนทั้งหมด เพื่อไม่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ย แต่ทางผู้บริหารกทม.กลับยื้อเรื่องนี้

 

ล่าสุดวันนี้ (30 ก.ย.) นายนภาพล กล่าวว่า ตนได้สอบถามนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่าจะสามารถจ่ายเงินค้างชำระให้แก่เอกชนได้เมื่อใด โดยผู้ว่าฯ ได้ให้คำตอบว่า จะยื่นข้อบัญญัติเข้ามาสภากทม.ได้ในวันที่ 15 ต.ค. ซึ่งตนได้สอบถามว่าเหตุจึงต้องยื่นในวันที่ 15 ต.ค. เพราะก่อนหน้านี้ คณะทำงานของกทม.ซึ่งประกอบด้วย สจส. (สำนักจราจรขนส่ง) และเคที ไปเจรจากับเอกชนว่าจะ ว่าจะชำระหนี้ภายในเดือนตุลาคมซึ่งหากยื่นญัตติเข้ายังสภากทม. ในวันที่ 15 ตุลาคมจะทำให้การชำระหนี้ไม่ทันตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งผู้ว่า แจ้งว่า หากไม่ทันที่กำหนดไว้ก็จะขอไปยื่นขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปอีก

ทั้งนี้ ในการยืดระยะเวลายื่นญัตติออกไปนั้น ทางผู้ว่าฯ แจ้งว่า เนื่องจากศาลปกครองกลาง เตรียมตัดสินคดีที่สอง จึงดึงเรื่องไว้ก่อน เพราะคดีนี้ ศาลปกครอง ได้มีการเปลี่ยนองค์คณะและอัยการทั้งหมด ทำให้รูปคดีอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาคดีถึงที่สุดแล้ว และเมื่อการฟ้องคดีที่สองเป็นเรื่องเดียวกันคำพิพากษาจึงไม่ได้แตกต่างไปจากเดิม

 

โดยตนจะเข้าไปปรึกษาทางสภากทม.ว่า จะสามารถตั้งกระทู้ได้หรือไม่ เนื่องจากตนเพิ่งตั้งกระทู้ถามไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะไปปรึกษาทีมกฎหมายว่า ในเรื่องภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ฝ่ายบริหารจะต้องรับผิดชอบใช่หรือไม่ เพราะการยื้อการจ่ายหนี้อออกมาทำให้กทม.เกิดความเสียหายจากภาระดอกเบี้ยตั้งเเต่เดือน ธ.ค. 67 จนถึง ส.ค. 68 ซึ่งปัจจุบันหนี้ทั้งหมดของกทม.จะมีอัตราดอกเบี้ยตกวันละ 7 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ว่าที่ ผบ.ทอ." ลั่นถ้าอยากได้สันติภาพ ต้องพร้อมรบ ย้ำพร้อมปฏิบัติภารกิจทันที ไม่เวลาเลี้ยงฉลอง-ยินดีรับตำแหน่ง
พช.นครราชสีมา ประกาศความสำเร็จ “ผ้าไทยก้าวไกลสู่อนาคต” ผู้เข้าอบรมรุ่นที่ 7 โชว์ผลงานสุดสร้างสรรค์ ปิดการฝึกอบรมด้วยความภาคภูมิใจ
"บิ๊กโอ๋" ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. นั่งประธานประชุมคัดเลือก “ศูนย์ 191 ดีเด่น” ครั้งที่ 2/2568
TPIPL คว้ารางวัล "The Global Economics Awards 2025" ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการผลิตปูนซีเมนต์อย่างยั่งยืนระดับนานาชาติ
ซีพี จุดไฟความคิดสร้างสรรค์คนรุ่นใหม่ จัดการแข่งขัน “CP CUP 2025” แข่งแก้โจทย์ธุรกิจด้วยการลงมือจริง สร้างเครือข่าย Talent Pool ระดับนานาชาติ
เดินหน้ากวาดล้างสิ่งเสพติด ตามนโยบาย "No Drugs No Dearlers"

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​