ทั่วโลกรับรู้ “สีหศักดิ์” รมว.กต. ใช้เวที UN ตอบโต้กัมพูชาเล่นบทเหยื่อ บิดเบือนข้อเท็จจริงปมชายแดน ย้ำชัดไทยยืนหยัดสันติภาพ
ข่าวที่น่าสนใจ
มีรายงานจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ สมัยที่ 80 ณ นครนิวยอร์ก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวถ้อยแถลงถึงสถานการณ์ไทย–กัมพูชา โดยระบุว่า สถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองประเทศ และไทยยืนยันเดินหน้าเพื่อสันติภาพในฐานะสมาชิกครอบครัวอาเซียน
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ณ นครนิวยอร์ก โดยมีถ้อยคำตอนหนึ่งที่ระบุถึงสถานการณ์ไทย-กัมพูชาว่าสถานการณ์ปัจจุบันกับกัมพูชาไม่น่าพึงปรารถนาและไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย เช้าวันนี้ ผมตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไป เป็นไปในเชิงบวกเพื่อสะท้อนถึงความหวังสำหรับอนาคต แต่ผมต้องเขียนคำปราศรัยใหม่ เพราะคำพูดที่น่าเสียดายที่สุดของผู้แทนกัมพูชาซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของผม ด้วยความผิดหวังกัมพูชายังคงแสดงตนว่าเป็นฝ่ายที่ตกเป็นเหยื่ออย่างต่อเนื่อง กัมพูชาได้นำเสนอในสิ่งที่บอกว่าเป็นข้อเท็จจริงในมุมมองของตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะมันเป็นเพียงการบิดเบือนความจริงเท่านั้น เราทราบดีว่าใครคือเหยื่อที่แท้จริง พวกเขาคือทหารไทยที่ต้องสูญเสียขาจากทุ่นระเบิด เด็กนักเรียนที่โรงเรียนถูกยิงถล่มด้วยกระสุนปืนใหญ่ และพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่กำลังซื้อของในวันนั้นที่ร้านขายของชำซึ่งถูกโจมตีจากจรวดของกัมพูชา
นายสีหศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ผมได้พบกับเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาที่ห้องประชุมใหญ่ของสหประชาชาติ เราได้พูดคุยเกี่ยวกับสันติภาพ การเจรจา ความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน และความเชื่อมั่น ซึ่งเรื่องเหล่านี้ได้รับการเน้นย้ำอีกครั้งในการปรึกษาหารืออย่างไม่เป็นทางการ 4 ฝ่าย ที่สหรัฐอเมริกาเป็นผู้จัดขึ้น เราขอบคุณในความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสันติภาพ แต่เป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่ง สิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาพูดในวันนี้กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่พูดในการประชุมเมื่อวานนี้ มันเผยให้เห็นถึงเจตนารมณ์ที่แท้จริงของกัมพูชา ข้อกล่าวหาต่างๆ เหล่านี้เกินจริงและไร้สาระจนกลายการเยาะเย้ยต่อความจริง
นายสีหศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่แรกเริ่ม กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้นความขัดแย้ง โดยมีเจตนาที่จะขยายข้อพิพาทเรื่องพรมแดนให้กลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ และขยายขอบเขตไปสู่ระดับนานาชาติมากขึ้น ดังเช่นที่เกิดขึ้นอีกครั้งในเช้าวันนี้ หมู่บ้านที่เพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาของผมกล่าวถึงก่อนหน้านี้ตั้งอยู่ในดินแดนไทย ในความเป็นจริงแล้ว หมู่บ้านเหล่านี้มีอยู่ได้ ก็เพราะประเทศไทยได้ตัดสินใจด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมในการเปิดพรมแดนของเราในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ให้ชาวกัมพูชาหลายแสนคนที่หลบหนีสงครามกลางเมืองในประเทศของตนเข้ามาลี้ภัยในประเทศไทย เราตัดสินใจเช่นนี้ด้วยความเห็นอกเห็นใจและหลักการด้านมนุษยธรรม ซึ่งผมเคยเห็นภาพเหล่านี้ด้วยตนเอง ในขณะที่ยังเป็นนักการทูตหนุ่ม แม้ว่าสงครามกลางเมืองจะสิ้นสุดลงและศูนย์พักพิงได้ถูกปิดไปแล้ว แต่หมู่บ้านในกัมพูชากลับขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา และแม้จะมีการประท้วงของไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่า กัมพูชาก็เพิกเฉยและไม่เคยตอบสนองต่อคำขอร้องให้แก้ไขปัญหาการรุกล้ำดินแดนนี้
อีกทั้งเมื่อสันติภาพนั้นกลับคืนสู่กัมพูชาหลังจากข้อตกลงสันติภาพปารีสปี 1991 ประเทศไทยก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยสร้างและฟื้นฟูประเทศกัมพูชาให้กลับมั่นคงอีกครั้ง ทั้งการสร้างบ้าน ถนน และโรงพยาบาล เพราะสันติภาพของกัมพูชาก็เป็นผลประโยชน์ของประเทศไทยเช่นกัน นี่คือสิ่งที่เพื่อนบ้านควรทำให้กัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย บอกข้อเท็จจริงอีกว่า การหยุดยิงยังคงเปราะบาง เราต้องทำให้มันได้ผลอย่างยั่งยืน ซึ่งต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการดำเนินการอย่างจริงใจจากทั้งสองฝ่าย น่าเสียดายที่กัมพูชายังคงกระทำการอันเป็นการยั่วยุอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเคลื่อนย้ายและระดมพลเรือนเข้ามาในดินแดนไทยและการยิงใส่ฝั่งไทยเมื่อเร็วๆนี้ ที่ได้บ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดน ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ที่ทหารกัมพูชายิงใส่ทหารไทยที่ประจำการอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงเหตุการณ์ล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้ 27 กันยายน ตามเวลาในไทย ทหารไทยยังคงตรวจพบโดรนสอดแนมของกัมพูชาที่บินรุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทยเป็นประจำทุกวันในพื้นที่ชายแดน การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย รวมถึงเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่ตกลงกันไว้ในการประชุมพิเศษที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย และเป็นข้อตกลงที่มีการยืนยันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการชายแดนระหว่างสองประเทศ
นายสีหศักดิ์ ยังขอให้ทุกท่านอย่าได้สงสัยว่า ประเทศไทยยืนหยัดเพื่อสันติภาพมาโดยตลอดและจะยืนหยัดในเรื่องดังกล่าวต่อไป ประเทศไทยจะยืนหยัดอย่างแน่วแน่และมั่นคงในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของเรา เราขอเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือกับเราในการแก้ไขความแตกต่างและข้อขัดแย้งผ่านการเจรจาอย่างสันติ และกลไกต่างๆ ที่มีอยู่ในขณะนี้ วันนี้ประเทศของเราทั้งสองต้องเผชิญกับทางเลือกที่สำคัญ ในฐานะเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและในฐานะมิตร ไทยขอถามกัมพูชาว่าจะเลือกเส้นทางใด ระหว่างเส้นทางแห่งการเผชิญหน้าอย่างต่อเนื่อง หรือเส้นทางแห่งสันติภาพและความร่วมมือ เพราะประเทศไทยเลือกเส้นทางแห่งสันติภาพ เราเชื่อว่าประชาชนของทั้งสองประเทศสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ แต่เราตั้งคำถามอย่างจริงจังว่า กัมพูชามีเจตนาที่จะร่วมมือกับเราในการแสวงหาสันติภาพหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น