เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านและผู้นำชุมชนบ้านใต้ ตำบลแม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รวมตัวกันแสดงความไม่พอใจ หลังพบว่ามีชาวต่างชาติว่าจ้างเครื่องจักรมาขุดซากเหล็กเรือโบราณที่จมอยู่ในทะเลและกลายเป็นแลนด์มาร์คท้องถิ่นมายาวนานกว่า 100 ปี ขึ้นมาวางบนก้อนหินบริเวณชายหาดสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้นำชุมชนและนักการเมืองท้องถิ่นออกโรงจี้หน่วยงานรัฐเร่งตรวจสอบ พร้อมระบุว่าเป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และอาจผิดกฎหมายหากไม่มีการขออนุญาตจากเจ้าท่าหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง
ซากเหล็กที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นชิ้นส่วนเรือกลไฟสมัยโบราณนี้ ถูกพบฝังอยู่บริเวณชายหาดบ้านใต้มานานนับศตวรรษ และเป็นที่กล่าวขานกันตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย โดยมีรูปลักษณะเฉพาะคือเป็นเหล็กหนาขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 3 เมตร ซึ่งไม่เคยมีใครกล้ายุ่งเพราะเชื่อว่ามีเรื่องลี้ลับ บางครั้งมีผู้พยายามขุดก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น ป่วยกะทันหันหรือเครื่องจักรพัง จึงกลายเป็นของที่ชาวบ้านเคารพ อีกทั้งยังเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่มักมาถ่ายรูปและตั้งคำถามถึงประวัติของซากเหล็กลึกลับนี้
ล่าสุด ผู้นำชุมชนพร้อมประชาชนกว่า 20 คน ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อยืนยันว่า การขุดย้ายซากเหล็กโดยพลการเป็นการละเมิดสิทธิของชุมชนและเข้าข่ายบุกรุกพื้นที่สาธารณะทางทะเล นายณะรบ ทวยเจริญ สมาชิกสภาเทศบาลนครเกาะสมุย ระบุว่าการกระทำดังกล่าวอาจผิดกฎหมายชัดเจน เนื่องจากทะเลและชายหาดอยู่ในความดูแลของกรมเจ้าท่าและกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งผู้ใดจะดำเนินการใด ๆ ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการก่อน พร้อมย้ำว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องลงมาตรวจสอบโดยด่วน ก่อนที่ทรัพยากรและวัฒนธรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายไปมากกว่านี้
เชิดชาย ทวีเมือง ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.สุราษฎร์ธานี