เกมร้อน ! เทียบร่างแก้ไขรธน. ฉบับ “ส้ม-น้ำเงิน”

เทียบร่างรัฐธรรมนูญฉบับพรรคประชาชน-ภูมิใจไทย แตกต่างเหมือนกันอย่างไร พร้อมเปิดที่มา สสร.ทางอ้อมต้องเป็นไปตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญวางไว้

เกมร้อน ! เทียบร่างแก้ไขรธน. ฉบับ “ส้ม-น้ำเงิน” – Top News รายงาน

เป็นไปอย่างเร่งร้อนสำหรับการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของ “พรรคประชาชน” ที่ต้องบอกว่า กำลังใส่เกียร์เดินหน้าอย่างร้อนรน โดยล่าสุด “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.)เปิดเผยถึงการจัดทำ “ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1” ฉบับใหม่ของพรรคประชาชน เพื่อเสนอกลไกในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ให้เสี่ยงต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า “รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง”

ขณะที่ “ภูมิใจไทย” โดย “ภราดร ปริศนานันทกุล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ออกมาเปิดเผยว่า ร่างแก้ไขธรรมนูญ มาตรา 256 ฉบับภูมิใจไทยเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยทางพรรคกำลังให้ สส.ร่วมลงชื่อเพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่ต้องมีเสียง 1 ใน 5 โดยพรรคเรามี 69 เสียง และได้มีการหารือร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นแล้วด้วย โดยจะมีการรวบรวมรายชื่อเพื่อยื่นเสนอต่อประธานรัฐสภาเพื่อบรรจุวาระในวันที่ 24 ก.ย.นี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อเทียบร่างรัฐธรรมนูญพรรคปะชาชน กับพรคภูมิใจไทยอาจมีความแตกต่างกันบ้าง โดยฉบับพรรคประชาชนมีรูปแบบดังนี้
1.พรรคประชาชนเสนอให้มี “2 กลไกคู่ขนาน” เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
กลไกแรก คือคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จำนวน 35 คน ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จำนวน 70 คน โดยใช้ระบบบัญชีรายชื่อที่ให้ผู้สมัครสมัครเป็นทีมและใช้เขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง จากนั้นรัฐสภาคัดเลือก 35 คน แบ่งสัดส่วนตาม สส. สว. และพรรคการเมือง เท่ากับว่าหากสมาชิกรัฐสภามีทั้งหมด 700 คน สมาชิกรัฐสภา 20 คน มีสิทธิรวมตัวกันเพื่อเสนอชื่อ กมธ. ยกร่าง 1 คน
กลไกที่สอง คือสภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 100 คน ทำหน้าที่รับฟังความเห็นประชาชน และสะท้อนความเห็นต่อ กมธ.ยกร่างฯ โดยทั้ง 100 คน มีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ใช้ระบบแบ่งเขต ที่ให้ผู้สมัครสมัครเป็นรายบุคคล และใช้จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง จังหวัดละ 1-5 คน ตามจำนวนประชากร

ส้ม-น้ำเงิน

2. พรรคประชาชนกำหนดเวลาในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไว้ที่ 270 วัน หรือ 9 เดือน โดยให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และ สภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และกำหนดให้ทั้ง 2 กลไกสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ โดยไม่ถูกกระทบจากการยุบสภาหรือจากการที่สภาหมดวาระ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการทำงานและความต่อเนื่องของกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

3. เมื่อยกร่างเสร็จแล้ว ให้นำเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อรัฐสภา หากรัฐสภาเห็นชอบ ให้นำร่างดังกล่าวไปทำประชามติ เพื่อสอบถามประชาชนว่าเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ แต่หากรัฐสภาไม่เห็นชอบ ให้ร่างดังกล่าวเป็นอันตกไป โดยหากจะมีการจัดทำฉบับใหม่ขึ้นมาอีกฉบับ ให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบให้มีการเลือกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และ สภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ ชุดใหม่ขึ้นมาตามกระบวนการเดิม

ขณะเดียวกันใน “เรื่องป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน” พรรคประชาชนกำหนดไว้ดังนี้ (1) การทำงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และ สภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ ไม่จำกัดอยู่แค่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ให้ครอบคลุมถึงการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ที่ถูกกำหนดในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย โดยอาจเริ่มต้นทันทีที่ประชาชนลงประชามติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
(2) บุคคลที่ทำหน้าที่ในคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และ สภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น สส. สว. รัฐมนตรี ผู้บริหารหรือสมาชิกสภาท้องถิ่น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ในช่วงแรกหลังเสร็จภารกิจ

นอกจากนีพรรคประชาชนยังมีข้อเรียกร้องต่อฝ่ายต่างๆ ดังนี้
1. ขอให้พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 เข้าสู่สภาภายในสัปดาห์นี้ ตามที่ได้ประกาศไว้ และระบุรายละเอียดในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 ที่กำหนดให้มีกลไกในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เปิดกว้างให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด ตราบเท่าที่ไม่ขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
2. ขอให้ สส. และ สว. ทุกคน พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1
3. ขอให้ประธานรัฐสภา เปิดประชุมเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 ทุกฉบับโดยเร็ว
4. ขอให้นายกรัฐมนตรี เดินสายทำความเข้าใจกับ สส. และ สว. เพื่อผลักดันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1 สำเร็จตามเป้าหมายของ MOA

ทั้งนี้พรรคประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า หากข้อกำหนดต่าง ๆ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้แล้วนั้น “กระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนญฉบับใหม่จะมีไทม์ไลน์” ดังนี้
– ภายในสัปดาห์นี้ ทั้ง 3 พรรคการเมือง คือพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย จะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 ของตนเอง
– ต้นเดือนตุลาคม เข้าสู่การพิจารณาวาระ 1
– เดือนตุลาคมถึงธันวาคม เป็นการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ
– เดือนธันวาคม รัฐสภาจะพิจารณาวาระ 2 และวาระ 3
– เดือนมกราคม 2569 กำหนดวันประชามติพร้อมการเลือกตั้ง และยุบสภาภายในสิ้นเดือนมกราคม 2569 ตามเงื่อนไขที่ระบุใน MOA

 

กลับมาที่ “ภูมิใจ” ไทยแม้ว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับภูมิใจไทยจะยังไม่มีรายละเอียดครบถ้วน แต่ในส่วนของที่มาของการเลือก สสร. ทางอ้อม ภูมิใจไทยมีกรอบวางไว้ชัดเจนว่า ต้องเขียนให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวมีต้นแบบนแนวทางเดียวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2539 ซึ่งเป็นที่มาของ สสร.ในปี 2540 โดยแยกเป็น 2 ส่วนดังนี้
ส่วนแรก
1.ผู้ที่ประสงค์จะเป็น สสร. แต่ละจังหวัดสมัครเข้ามาโดยให้ กกต. เป็นผู้รับสมัคร
2. รัฐสภาเลือกผู้สมัคร สสร.ใน 77 จังหวัดให้เหลือจังหวัดละ 1 คน
ส่วนที่สอง
1.กลุ่มนักวิชาการ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และเชี่ยวชาญสมัครเข้ามาเป็น สสร.
2. รัฐสภาเลือกกลุ่มนักวิชาการนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และเชี่ยวชาญที่สมัคร สสร. เหลือ 22 คน
3.แบ่งกลุ่มนักวิชาการนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และเชี่ยวชาญเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 7-8 คน

จากนี้ต้องจับตาดูว่าเกมร้อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับพรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทยจะไปได้ไกลเพียงใดภายกรอบระยะเวลา 4 เดือน และท้ายที่สุดการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ประชาชนไม่เคยได้ประโยชน์อะไรแม้เพียงกระผีกจะเดินทางสู่เป้าหมายหรือจบเห่แบบมือเปล่า…ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป….?

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาววังน้ำเขียว–อุทยานทับลาน ผนึกกำลังทำความสะอาด “น้ำตกม่านฟ้า” ต้อนรับนักท่องเที่ยวปลายฝนต้นหนาว
"บิ๊กเต่า" เร่งสอบอดีตเจ้าอาวาสวัดดังกาฬสินธุ์ ทุจริตเงินวัดหลังลาสิกขา
ปลอกกระสุนปืนใหญ่ หลอมพระสมิงชัย 'วัดกุดสมิง' ผุดพิธีใหญ่ มอบทหารกล้าแนวชายแดน
เชียงใหม่ Kick Off “Chiang Mai Festival City : 12 เดือน 12 เทศกาล”
'รากาซา' แผลงฤทธิ์ ทำน้ำจากเทือกเขาพนมดงรักหลากท่วมถนน 24 และใกล้ตัวอำเภอสังขะ
"แม่ทัพกุ้ง" แจงเหตุทหารเขมร ยิงปืน"ภูผี"ศรีสะเกษ ไทยโต้กลับ ยอมล่าถอยทันที

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​