ตำรวจนำตัวบอม คนร้ายใช้มีดจี้ตัวประกันชิงทอง ทำแผน หลั่งน้ำตาก้มกราบเท้าขอโทษเจ้าของร้านทอง

วันที่ 19 กันยายน 2568 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัวนายเชาวลิต (บอม) คชวงษ์ ที่ห้องพักในพื้นที่ จ.นนทบุรี ซึ่งหลังจากเมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้ตัวประกันเพื่อบังคับให้นางนันทวรรณ เปี่ยมเขียว อายุ 75 ปีเจ้าของร้านทอง อุดมสุข ตั้งอยู่เลขที่ 285/13 ตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรีหยิบทองใส่ถุงเส้นละ 1 สลึงให้เป็นจำนวน 15 เส้นคิดเป็นเงิน 2.4 แสนบาท จากนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนี จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบทราบว่าคนร้ายได้หลบหนีไปอยู่ที่ ห้องพักใน จ.นนทบุรี

ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอหมายศาลเข้าควบคุมตัวได้คาห้องพัก จากการสอบถามนายบอม ยอมรับสารภาพว่าตนเองไม่ได้เสียพนันบอล แต่นำเงินไปลงเทรดหุ้นทอง แล้วเสีย ไม่มีเงินที่จะไปลงทุนใหม่จึง ได้เข้าจี้ร้านทองเพื่อนำเงินไปลงเทรดหุ้นใหม่ ส่วนทองที่ตนเองจี้มานั้น ตนเองได้มาทั้งหมด 8 เส้น และได้นำไปขายแล้ว 2 ร้านๆละ 4 เส้น ได้เงินมาแสนกว่าบาท ตนเองได้นำไปลงทุนเทรดหุ้นหมดแล้ว จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปชี้จุดที่นำทองไปขาย และตลอดเส้นทางที่ควบคุมตัวมายัง สภ.บ้านหมอ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำแผนมาตลอดเส้นทาง เนื่องจากว่านายบอมได้เตรียมหมวกกันน็อกที่ใช้ก่อเหตุมาด้วยกัน 2 ใบ ซึ่งหลังจากก่อเหตุได้โยนทิ้งหมวกที่ใส่ก่อเหตุทิ้ง และสวมหมวกที่เตรียมมาใบใหม่แทน จุดที่นายบอม จอดรถเพื่อใส่แผนป้ายทะเบียนรถ เนื่องจากว่าตอนก่อเหตุ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยมาฮา รุ่นเอ็นแม็ก สีน้ำเงินด้าน ที่ใช้ในการก่อเหตุไม่ได้สวมทะเบียน นายบอมได้ใส่ทะเบียนหมายเลข 4ขฮ 9503 กรุงเทพมหานคร

ข่าวที่น่าสนใจ

จากนั้นเวลา 20.30 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพนำโดย พ.ต.อ.มนัสเวท ทองอิ่ม ผกก.สภ.บ้านหมอ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุสืบสวน สภ.บ้านหมอ ได้ควบคุมตัวนายบอม โดยรถตู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ร้านทองที่ก่อเหตุ ซึ่งมีประชาชนมารอดูหน้าคนร้ายที่ก่อเหตุกันเป็นจำนวนมาก โดยนายบอม(ผู้ก่อเหตุ) สวมกางเกงขาสั้นสีขาว เสื้อยืดคอกลมสีขาว ถูกทับด้วยเสื้อเกราะ สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ใส่แมส และสวมกุญแจมือ ซึ่งนายบอมมีสีหน้า และแววตาที่เศร้า

ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปภายในร้านทอง ซึ่งมีนางนันทวรรณ เปี่ยมเขียว เจ้าของร้านทอง อุดมสุข พร้อมด้วยญาติๆ ซึ่งรอดูหน้าคนร้ายอยู่ภายในร้าน และเมื่อนำตัวนายบอม เข้ามาในร้าน นายบอม ได้ยกมือขึ้นไหว นางนันทวรรณ พร้อมกล่าวว่าขอโทษ ซึ่งนางนันทวรรณ ได้ถามกลับไปว่า นึกอย่างไรถึงได้มาก่อเหตุร้านของตนเอง โดยนายบอม บอกว่าไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุที่ร้านนี้แต่ตนเองแค่ขี่รถผ่านมา เห็นว่า อาม่าอยู่คนเดียวตนเองจึงได้เข้ามา สิ่งที่ตนเองทำไปเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ และเมื่ออาม่า ถามว่าของกลางจะมีคืนไหม นายบอม ตอบว่าไม่มี ซึ่งเงินที่ตนเองได้ไปนั้นตนเองเอาไปลงเทรดหุ้นเสียหมด ส่วนที่ตนเองบอกว่าเสียพนันบอลนั้น เนื่องจากว่าจังหวะนั้นตนเองคิดได้แค่นั้นจึงได้พูดไปแบบนั้น ซึ่งอาม่า ก็บอกว่าขอถอดแมสให้ดูใบหน้าหน่อย ซึ่งทองที่ได้ไปนั้นตนเองได้นำไปขายหมดแล้ว และเงินที่ได้มาก็นำไปใช้หนี้ และนำไปใช้จนหมดแล้ว ซึ่งในวันก่อเหตุถ้าอาม่า ไม่ให้ทองตนเองก็ไม่กล้าที่จะปาดคอตัวประกัน และก็คงจะต้องวิ่งหนีออกจากร้าน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ให้นายบอม ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

 

ซึ่งหลังจากที่ทำแผนเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมผู้สื่อข่าวออกนอกร้าน พร้อมปิดประตูร้าน โดยให้นายบอม ถอดแมสออก จากนั้นนายบอม ได้คุกเข่าก้มกราบที่เท้าของอาม่า พร้อมกล่าวคำขอโทษ ซึ่งในขณะที่ก้มกราบเท้าอาม่า นายบอมมีสีหน้าที่เศร้าและมีน้ำตาไหลออกมา จากนั้นก็เข้าคุกเข่ากราบที่เท้าของลูกชายอาม่าอีกคน และเมื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จ

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ควบคุมตัวนายบอม ไปยัง สภ.บ้านหมอ เพื่อส่งให้พนักงานสอบสวนควบคุมตัวไปดำเนินคดีทางด้านกฎหมายต่อไป โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า “ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พันการจับกุม เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ชื่นใจผู้อื่นและหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น” ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวนายเชาวลิต (บอม) คชวงษ์ ฝากขังยังศาลจังหวัดสระบุรีในวันพรุ่งนี้

ทางด้านนางนันทวรรณ (อาม่า) เปี่ยมเขียว เจ้าของร้านทอง เผยว่า หลังจากผู้ก่อเหตุ เข้ามาคุกเข่าก้อมกราบ ตนเองพร้อมบอกว่าขอโทษ ที่ดิดหลงผิดไปเล่นการพนันจนหมด เสียอนาคตจริงๆน่าสงสารเขา ตนเอไม่คิดถือโทษเขา แต่อยากถามว่าทำไมถึงมาปล้นอาม่า ได้รับคำตอบว่าเห็นอาม่าแก่แล้วและอยู่คนเดียว ซึ่งคนร้ายก็ได้ก้มลงกราบขอโทษทุกคน และตนเองก็ให้อภัยเขาไป ซึ่งก็บอกไปว่าอย่าไปทำกับใครเขาอีก ซึ่งคนร้ายก็รับปากว่า ไม่ทำอีกแล้วครับ ตนเองก็ให้อภัยและอโหสิให้

ทางด้าน พ.ต.อ.มนัสเวท ทองอิ่ม ผกก.สภ.บ้านหมอ กล่าวว่า ซึ่งคนร้ายให้การรับสารภาพ และเท่าที่ทราบคนร้ายพื้นเพเป็นคนบ้านหมอ ซึ่งอาศัยอยู่ที่ อ.บ้านหมอ จนอายุ 20 ปีจึงได้ไปเกณฑ์ทหารเมื่อปลดประจำการก็ไปใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯ และมีครอบครัว ซึ่งคนร้ายก็มีหน้าที่การงานที่ดี ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติก็ไม่พบว่าเคยกระทำความผิดมา ซึ่งผุ้ก่อเหตุก็รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยยอมรับว่าตนเองไปเล่นเทรดหุ้นทองคำ เกิดขาดทุน และขาดสภาพคล่องเรื่องการเงิน จึงได้วางแผนแต่ก็นึกไม่ออก อยากทำในที่ไกลๆตัว จึงได้มาวนดูและเมื่อสบโอกาส เห็นว่าทางร้านมีอาม่าอยู่เพียงคนเดียวก็เลยเข้ามาก่อเหตุ ซึ่งในระหว่างทางนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้วทุกอย่าง โดยได้ทำแผนมาตลอดเส้นทางรวมแล้ว 5-6 จุด และได้ของกลางมาหลายชิ้น ซึ่งหมวกกันน็อกที่คนร้ายสวมใส่นั้นคนร้ายได้เตรียมมาไว้ 2 ใบและในระหว่าที่หลบหนีได้ทิ้งใบที่ใส่ก่อเหตุ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังหาไม่พบ พร้อมถอดแผ่นป้ายทะเบียนออกด้วย และหลังก่อเหตุได้นำกลับมาใส่ไว้เหมือนเดิม

ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ  ผู้สื่อข่าว topnewsทั่วไทย จังหวัดสระบุรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วุ่นแล้ว "กมธ.ทรัพยากรฯ" วุฒิสภา ชงป.ป.ช.เอาผิด เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.เอื้ออดีตรมต. ปล่อยผิดโรงงานแป้ง โคราช รุกป่าสงวนฯ
"กรมพัฒนาธุรกิจการค้า" ย้ำปชช.สามารถเช็คที่อยู่อาศัยของตน ว่าถูกมิจฉาชีพนำไปแอบอ้างเป็น ‘ที่ตั้งสำนักงานนิติบุคคล’ หรือไม่?
สมุทรสงครามซ้อมแผนเรือประมงชนกลางทะเลดอนหอยหลอด
ยูเอ็นมีมติให้ผู้นำปาเลสไตน์ร่วมประชุมผ่านวีดีโอ
รัสเซียปฏิเสธรุกล้ำน่านฟ้าเอสโตเนีย
โซเชียลโวย "อันวาร์" ไม่เป็นกลาง ฟังคำ"ฮุน มาเนต" กล่อมไทยร่วมใช้เวที JBC "นันทิวัฒน์" จวกไม่ดูใครก่อสงครามก่อน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​