โฆษกกต.แถลงโต้ “กัมพูชา” จงใจยั่วยุแสวงหาความรุนแรง เผย “นายกฯอนุทิน” แจงประธานอาเชียนแล้ว เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยึดหลักสากล

โฆษกกต.แถลงโต้ "กัมพูชา" จงใจยั่วยุแสวงหาความรุนแรง เผย “นายกฯอนุทิน” แจงประธานอาเชียนแล้ว เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยึดหลักสากล

โฆษกกต.แถลงโต้ “กัมพูชา” จงใจยั่วยุแสวงหาความรุนแรง เผย “นายกฯอนุทิน” แจงประธานอาเชียนแล้ว เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยึดหลักสากล

 

ข่าวที่น่าสนใจ

19 ก.ย.2568 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง อีกทั้งการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน

 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตำหนิอีกว่า การปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง ซึ่งการวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย

ทั้งนี้ฝ่ายไทยรู้สึกผิดหวังที่กัมพูชาเลือกเส้นทางแห่งความขัดแย้งและไม่ก่อให้เกิดสันติภาพอย่างแท้จริง เพราะการดำเนินการของกัมพูชาในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งการปลุกระดมประชาชน รวมทั้งการบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือแม้แต่ผู้นำกัมพูชาที่นำเรื่องนี้ไปร้องเรียนกับนานาชาติ สะท้อนให้เห็นถึงการจัดฉากไว้ล่วงหน้า สร้างสถานการณ์เพื่อนำไปฟ้องต่อประชาชมระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ไม่สร้างสรรค์ ขาดความสุจริตใจ

นายนิกรเดช เปิดเผยด้วยว่า ขณะเดียวกันประธานอาเซียนได้หารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เมื่อคืนนี้ ถึงความสำคัญในการคงช่องทางและกลไกหารือทวิภาคีระหว่างสองประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยพยายามรักษามาโดยตลอด และในเวทีระหว่างประเทศฝ่ายไทยได้ตอบโต้ และชี้แจงในทุกระดับมาโดยตลอด ยึดหลักฐานเชิงประจักษ์และหลักสากล เช่น การทำหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติที่กล่าวอ้างว่าไทยขับไล่ชุมชนกัมพูชาออกจากพื้นที่ไทยนั้น ยืนยันว่าการบริหารพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ลี้ภัยของกัมพูชาในอดีต เป็นการดำเนินการที่ชอบธรรม บนพื้นฐานของหลักการสิทธิมนุษยชน ร่วมกับองค์การสหประชาชาติ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดของทั้งสองฝ่ายก็ได้หารือกันมาโดยตลอด เพื่อคลี่คลายความเข้าใจและประเด็นที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม หวังว่ากัมพูชาจะใช้เวทีระหว่างประเทศต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งการประชุมสหประชาชาติ การประชุมสุดยอดอาเซียน การประชุมเขตเศรษฐกิจพิเศษเอเปก ในการพิสูจน์ความจริงใจในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ จึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง และการกระทำใดๆ ที่ก่อให้เกิดความตึงเครียดและการหาทางออกร่วมกัน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทส.จัดใหญ่มอบของขวัญปีใหม่ 2569 เปิดอุทยานฯ-สวนสัตว์ทั่วไทย เที่ยวฟรี 5 วันรวด
นครสวรรค์ เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569
อบจ.กาญจนบุรี จัดเต็ม! กีฬาสีภายใน “มิตรภาพ สามัคคี สปิริต” เสริมสร้างพลังทีมเวิร์ก
ปลัดจังหวัดพิษณุโลก ร่วมพิธีเชิญสิ่งของพระราชทาน ชาวอ.ชาติตระการ
"บิ๊กแอ๊ด" เปิดตัว "แม่เลี้ยงผึ้ง" ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 2 จ.แม่ฮ่องสอน ในนามพรรคพลังประชารัฐ
“น้องต้นข้าว” สุปรียา แชมป์ดวลเพลงชิงทุน คว้ารางวัลต้นกล้าแห่งความดี ในโครงการหนึ่งล้านกล้าความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​