BBC และ AFP เผยคลิปงานเลี้ยงอาหารค่ำพระราชทานสุดหรูที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่สามแห่งอังกฤษทรงจัดขึ้นเพื่อต้อนรับทรัมป์ในช่วงค่ำคืนวันพุธ (17 กย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีแขกสำคัญได้รับเชิญเข้าร่วม 160 คน รวมทั้งสมาชิกราชวงศ์ระดับสูง, มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ, รูเพิร์ต เมอร์ด้อก เจ้าพ่อสื่อคนดัง, ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิลและนิค ฟัลโด อดีตนักกอล์ฟชื่อดังของอังกฤษ
ขณะที่เมนูก็มีพานาคอตต้าผักวอเตอร์เครส, บิสกิตหน้าชีสพาร์เมซาน, สลัดไข่นกกระทา, ไก่ห่อบวบซูกินี่และไอศกรีมวานิลาราดซอสราสเบอร์รี่
ระหว่างงานเลี้ยงทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์สั้นๆบอกว่าเขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงสุดในชีวิต ที่ได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้ และเปรียบเทียบสหรัฐกับสหราชอาณาจักรว่าเหมือนกับโน้ตสองตัวในหนึ่งคอร์ด (เปรียบเทียบกับดนตรี) ต่างก็มีความไพเราะงดงามของตัวเอง แต่เหมาะที่จะเล่นควบคู่กันไป
ขณะที่กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ทรงชื่นชมทรัมป์ที่ยึดมั่นในการแก้ปัญหาความขัดแย้งสำคัญๆของโลก
วันรุ่่งขึ้น (พฤหัสที่ 18 กย.) ทรัมป์ก็ทูลลาเพื่อเดินทางไปพบหารือกับนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ที่บ้านพักในชนบทที่มีชื่อว่า “เช็คเคอร์ส” ปล่อยเมลาเนีย ทรัมป์ สตรีหมายเลข 1 อยู่ที่พระราชวังวินด์เซอร์เพื่อใช้เวลาอยู่ร่วมกับพระราชินีคามิลล่า
โดยสองผู้นำได้พูดคุยหารือกันในหัวข้อเรื่องข้อตกลงการค้า, ความขัดแย้งยูเครนและตะวันออกกลาง โดยทรัมป์ให้คำมั่นว่าธุรกิจสหรัฐ รวมทั้งไมโครซอฟท์และแบลคสโตนจะเข้ามาลงทุนในสหราชอาณาจักรในมูลค่า 1 แสน 5 หมื่นล้านปอนด์หรือกว่า 6 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษและคาดว่าจะช่วยสร้างงานราว 7 พัน 600 ตำแหน่งให้กับชาวอังกฤษ
ทรัมป์และสตาร์เมอร์ยังลงนามในข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านเทคโนโลยี รวมทั้งด้าน AI, ควอนตัมคอมพิวติ้งและพลังงานนิวเคลียร์
ทั้งนี้สตาร์เมอร์ยังหวังว่าการพบปะครั้งนี้จะช่วยกล่อมทรัมป์ให้ลดภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจาก 25% ลงเป็น 0% หลังจากการพบปะกันครั้งก่อนที่ทำเนียบขาวในเดือนพฤษภาคม สตาร์เมอร์สามารถกล่อมทรัมป์ให้ลดภาษีตอบโต้ลงสำเร็จ
