เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 17 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีมวลชนชาวกัมพูชารื้อลวดหนามหีบเพลงที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยทางกองกำลังบูรพา รายงานสถานการณ์ล่าสุดว่า ช่วงเวลา 17.30 น. สถานการณ์ยังไม่สงบโดยทางประชาชน กัมพูชายังพากันปลุกระดมให้ต่อต้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายฝ่ายไทย ซึ่งทางกัมพูชา ได้นำผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่บางส่วน ส่วนทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ประกาศแจ้งเตือนอยู่ง,ตลอดเวลา ให้เจ้าหน้าที่กัมพูชาดูแลประชาชนของฝ่ายตนเองให้อยู่ในความสงบ และใช้เครื่องส่งคลื่นสัญญาณเสียง เพื่อจะสลายการชุมนุมของประชาชนกัมพูชา กพช. ทำให้ชาวกัมพูชาถอยออกจากพื้นที่ มีการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ไทย และมีการไลฟ์สดรายงานความเคลื่อนไหวและการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยด้วย
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดย พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ , พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว และ พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ อินทสิทธิ์ ผกก.สภ.โคกสูง เข้าสั่งการเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนและทหาร ให้ดำเนินการตามกฎหมาย และกติกาสากล โดยให้ฝ่ายปกครองและตำรวจรับมือไปก่อน ซึ่งคณะ IOT ฝั่งไทยและกัมพูชาอยู่ในพื้นที่ ทราบสถานการณ์หน้างาน ซึ่งกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้ประสานทหารภูมิภาคที่ 5 กัมพูชา ให้ดูแลราษฏรกัมพูชาอย่างใกล้ชิด แต่กัมพูชายังคุมคนของฝ่ายกัมพูชาไม่ได้
โดยตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว รายงานว่า ประชาชนชาวกัมพูชา เข้ามาในพื้นที่ป่ายูคาลิปตัส ระหว่างหลักเขตแดนที่ 42-43 ประเทศไทย ตรงข้าม หมู่บ้านตำบล 5 จ.บันทายเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ประมาณ 200 คน รื้อลวดหนามข้ามคลองมาที่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ทางการไทยจึงได้ใช้ แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง ยิงเพื่อหยุดยั้ง โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน ภ.จว.สระแก้ว, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกสูง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว(ชป.3), เจ้าหน้าที่ นปพ.ภ.จว.สระแก้ว, เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.12 และเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าควบคุมสถานการณ์
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลจากเหตุการณ์ปะทะดังกล่าว ส่งผลให้ตำรวจสระแก้ว ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย จากเหตุปะทะที่ บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ถูกนำส่ง รพ.อย่างปลอดภัย ประกอบด้วย พ.ต.ท.สมัชญ์ นาคพน รอง ผกก.สส.สภ.คลองลึก บาดเจ็บที่หน้าผาก, ด.ต.ศักดิ์สิทธิ์ นพเกล้า ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว บาดเจ็บที่หางคิ้ว, จ.ส.ต.ชยันต์ เบ้าทอง ผบ.หมู่(ป.)สภ.อรัญประเทศ บาดเจ็บที่หน้าผาก, และ ด.ต.แสงอรุณ ศรีวงศ์จันทร์ ผบ.หมู่(ป.) สภ.คลองลึก ได้รับบาดเจ็บที่ ขาขวาบวมช้ำ
ส่วนทหารไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ รพ.อรัญประเทศ ,รพ.ตาพระยา ,รพ.โคกสูง ,มูลนิธิร่วมกตัญญูสระแก้ว, มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ ,มูลนิธิสว่างเที่ยงธรรมอรัญประเทศ ได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมรถฉุกเฉินเข้าสนับสนุน ซึ่งทางโรงพยาบาลโคกสูง สแตนบายรับแผนเผชิญเหตุ ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ชีพ 10 นาย รถพยาบาล 1 คัน, รถ น.เขต 1 คัน และรถอุปกรณ์ส่องสว่างอีก 1 คัน
ขณะที่ในกลุ่ม telegram ของกัมพูชา แจ้งว่า ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชา บาดเจ็บอย่างน้อย 10 คน และรายงานในกลุ่มว่า เจ้าหน้าที่ไทยมีการใช้อาวุธ และมีการเรียกระดมมวลชน เข้ามายังในจุดพื้นที่ของการปะทะเพิ่มขึ้นในช่วงเกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุด คฝ.สระแก้ว ประมาณ 200 นาย ยังคงจัดเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังควบคุมพื้นที่ในช่วงกลางคืนตลอด 24 ชม. โดยได้จัดกำลังเตรียมพร้อมรับมือกรณีที่มีประชาชนชาวกัมพูชารวมตัวใกล้พื้นที่ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จว.สระแก้ว ซึ่งตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ยึดแนวทางปฏิบัติ จากเบาไปหาหนัก ,เน้นย้ำ หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง เว้นแต่กรณีจำเป็น และยืนยันพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของไทย ตำรวจมีศักดิ์และสิทธิ์ในการปฏิบัติตามหน้าที่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชน
ขณะที่ นายฐานิสร์ เทียนทอง กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า ผมและพี่น้องชาวสระแก้วทุกคน ขอส่งกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) ทุกนาย ณ บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง อดทน และอดกลั้น ภายใต้มาตรการควบคุมสถานการณ์อย่างมีสติ และเป็นขั้นตอน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และปกป้องอธิปไตยของชาติตามหลักสากล
ทั้งนี้ การยืนหยัดตรึงกำลัง ท่ามกลางความตึงเครียด แม้ต้องเผชิญกับความรุนแรงและการบาดเจ็บ คือภารกิจอันทรงเกียรติที่สะท้อนถึงความกล้าหาญ ความเสียสละ และความรักชาติอย่างแท้จริง พวกเรา พี่น้องประชาชนชาวสระแก้วทุกคน ขอชื่นชม เชิดชูเกียรติ และขอขอบคุณ เจ้าหน้าที่ทุกนาย ที่เป็นปราการด่านหน้า สร้างความอุ่นใจแก่ประชาชนตลอดแนวชายแดน และเป็นประวัติศาสตร์แห่งความเด็ดเดี่ยว ที่จะอยู่คู่ผืนแผ่นดินไทยตลอดไป