เปิดรายชื่อ 11 จังหวัด ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังใกล้ชิด “กรมชลประทาน” เตือนเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ
ข่าวที่น่าสนใจ
เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2568 ที่ผ่านมา กรมชลประทาน แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ฉบับที่ 7 โดยมีใจความสำคัญ ดังนี้ ตามพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 10-11 กันยายน 2568 ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย และในช่วงวันที่ 12-15 กันยายน 2568 ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะเริ่มมีฝนลดลง
ส่วนภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยยังคงมีกำลังปานกลาง ทำให้ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มขึ้นในเกณฑ์ 2,200-2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในช่วงวันที่ 15-23 กันยายน 2568 โดยจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นตามลำดับ
ข้อมูล ณ วันที่ 14 กันยายน 2568 เวลา 06.00 น. ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,659 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ระดับ +19.49 ม.ร.ท.ก. ระดับท้าย +9.56 ม.ร.ท.ก. ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2,200-2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดการณ์ว่าแม่น้ำสะแกกรังปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ Ct.19 จังหวัดอุทัยธานี และลำน้ำสาขารวมอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 200-250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยาชะลอน้ำไว้ แบ่งรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งรวม 400 – 420 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
จากสถานการณ์ข้างต้น กรมชลประทานได้ดำเนินการภายใต้เกณฑ์การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาโดยประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) อนุญาตให้กรมชลประทานปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากเดิมไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยปริมาณน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ระดับน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้แจ้งเตือน 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น