“เทพไท” ชี้โอกาสดี ปชป. ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง เชื่อถ้าพรรคยึดมั่นอุดมการณ์กลับมาแกร่งได้

“เทพไท” ชี้ปชป.ต้องยึดมั่นอุดมการณ์พรรคเรียกศรัทธาประชาชนคืน เชื่อจะทำให้พรรคเติบโตขึ้น

“เทพไท” ชี้โอกาสดี ปชป. ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง เชื่อถ้าพรรคยึดมั่นอุดมการณ์กลับมาแกร่งได้ – Top News รายงาน

 

เทพไท

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟชบุ๊กว่า อุดมการณ์ สำคัญกว่าตัวบุคคล
หลังจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้ว มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ มีข้อเสนอเกี่ยวกับตัวบุคคลที่จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ พูดถึงบุคคลที่เหมาะสม ที่จะเข้ามากอบกู้พรรคประชาธิปัตย์ให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิม

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าพรรคประชาธิปัตย์และปัจจุบันผันตัวมาเป็นนักวิเคราะห์ทางการเมือง อยากจะแสดงความเห็นเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงในพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ได้สิ้นสภาพไปทั้งชุด หลังจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรคแล้ว ก็เป็นโอกาสของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะสรรหาผู้นำพรรคคนใหม่ แต่ผู้นำพรรคคนใหม่ แม้ว่าจะมีบทบาทสำคัญ จะเป็นธงนำของพรรคในทางการเมืองก็ตาม แต่สิ่งที่สำคัญกว่าตัวบุคคล หรือตัวหัวหน้าพรรค นั้นก็คือจุดยืนทางการเมือง และอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์

 

 

ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำลง เพราะไม่มีการรักษาไว้ซึ่งอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ประกาศมาตั้งแต่ 6 เมษายน 2489 เป็นเวลาร่วม 80 ปีแล้วอุดมการณ์ 10 ข้อ และข้อที่สำคัญที่สุดคือ ข้อ4 พรรคประชาธิปัตย์ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ แต่ช่วงหลังพรรคประชาธิปัตย์กลับมีปัญหาในด้านอุดมการณ์ คือพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าร่วมกับรัฐบาลที่มาจากคณะรัฐประหาร และล่าสุดเข้าร่วมกับระบอบทักษิณ ทำให้แนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ทางการเมืองเปลี่ยนไป จากการยึดมั่นอุดมการณ์ในการต่อสู้ทางการเมือง มาเปลี่ยนไปการดำเนินการทางการเมืองอิงระบบทุน จึงทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนของพรรคประชาธิปัตย์สับสน

 

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เป็นโอกาสที่จะรีเซ็ต หรือปรับปรุงพรรคประชาธิปัตย์ใหม่ ผมอยากจะเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรค เพื่อเรียกศรัทธาจากประชาชนกลับคืนมา นั่นก็คือการต่อสู้และต่อต้านกับเผด็จการทุกรูปแบบ ทั้งเผด็จการทหาร เผด็จการทุนสามานย์ และเผด็จการอื่นใดที่จะเกิดขึ้น อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินงานทางการเมืองที่ชัดเจน ใช้อุดมการณ์มากกว่าใช้ระบบเงินทุนดำเนินการทางการเมือง ต้องมีความชัดเจนในแนวทางการเมือง ไม่ใช่การใช้วิธีแบบไฮบริด คือยึดอุดมการณ์แบบก่ำ ๆ กึ่ง ๆ ใช้ระบบทุนในการเลือกตั้งผสมเข้ามาด้วย ซึ่งจะเป็นความลักลั่นที่เกิดขึ้นในทางการเมือง

 

พรรคประชาธิปัตย์จะก้าวหน้า จะมั่นคงได้ ก็ยึดถืออุดมการณ์ของพรรคเป็นที่ตั้ง จะได้จำนวนที่นั่งส.ส.มากน้อยเพียงใดไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะสาระสำคัญคืออุดมการณ์ ถ้าพรรคมีอุดมการณ์ พรรคก็ค่อย ๆ พัฒนาเติบโตขึ้นไปได้ ในอดีตที่ผ่านมาประชาธิปัตย์ เคยรุ่งโรจน์ เคยตกต่ำ ก็เป็นเรื่องธรรมดาทางการเมือง และเชื่อว่าถ้ายังยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคอย่างเคร่งครัด พรรคประชาธิปัตย์ก็มีโอกาสเจริญก้าวหน้าในโอกาสต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฉก.ทส. ลุยสอบ นายทุนรุกป่าแก่งกระจานกว่า 900 ไร่ สั่งพิสูจน์ น.ส. 3 ก. ย้อนหลัง "สุชาติ" ย้ำป่าของคนไทย ต้องเอาป่าคืน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ขึ้นบอลลูนลมร้อนชมวิวทิวทัศน์ 'ผู่เจ่อเฮย' ในยูนนาน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) พ่อค้าอาหารริมทางของจีนโด่งดังจากศิลปะแพนเค้ก .
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เขตการค้าเสรีจีนใต้เร่งการดึงดูดทุนต่างชาติ
ปิดงานกินเจนครฯ ปีที่ 26 สืบสานศรัทธาไทย-จีน
โรงพยาบาลศุภมิตร สุพรรณบุรี เปิดโครงการ 100 ดวงตา 35 ปี ศุภมิตร

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​