“สภาองค์กรผู้บริโภค” หนุน “นายกฯอนุทิน” สานต่อนโยบายภท.ค่ารถไฟฟ้า 40 บาทต่อวัน ยันปชช.ได้ประโยชน์ ไม่กระทบสถานะการคลังปท. – Top News รายงาน
ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงอนาคคตนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ของพรรคเพื่อไทย ว่า “เรื่องนี้ต้องพิจารณาดูก่อน หากทำแล้วประชาชนได้ประโยชน์แน่ เพราะที่ผ่านมาบางโครงการดำเนินการแล้วพบว่ามีการขาดทุน ซึ่งเราต้องรักษาวินัยทางการเงินการคลังด้วย เพื่อให้โครงการสามารถอยู่รอดได้ เพราะถ้ารัฐต้องหางบประมาณเพื่อมาชดเชยส่วนต่างทุกๆปีในการดำเนินการเพื่อซื้อกิจการคืนจากผู้ที่ลงทุนก็คงไม่ใช่แนวทางที่ควรปฏิบัติ
อย่างไรก็ตามข้อมูลวันที่ 28 ส.ค. 2568 พบว่ามียอดผู้ลงทะเบียนพร้อมใช้สิทธิรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายผ่านแอปทางรัฐกว่า 2.6 แสนราย และร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการระบบตั๋วร่วมพ.ศ. …,ร่าง พ.ร.บ.รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ.2543 และร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางรางฯ อยู่ระหว่างรอวุฒิสภาพิจารณาก่อนมีผลบังคับใช้ต่อไป
ล่าสุด นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค) เปิดเผยกับสำนักข่าว TOPNEWS ถึงแนวคิดสนับสนุนโครงการรถไฟฟ้าราคาถูก ว่า ในช่วงที่ผ่านมา สภาองค์กรผู้บริโภค ได้ทำเรื่องโครงการรถไฟฟ้านี้ ตั้งแต่รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเสนอนโยบายค่าบริการขนส่งสาธารณะจะต้องไม่เกิน10% ของค่าแรงขั้นต่ำ เพราะคิดว่าในค่าแรง 300 บาท จะต้องมีค่าอาหาร ที่พัก ค่าอื่นๆ โดยในสมัยรัฐบาลนั้น จะคิดค่าโดยสารที่ 65 บาทตลอดสาย ซึ่งทางสภาผู้บริโภคได้คัดค้านเรื่องนี้ และในช่วงนั้น พรรคภูมิใจไทยได้ช่วยสภาฯ คัดค้านในเรื่องนี้ โดยรัฐมนตรีไม่เข้าประชุมคณะรัฐมนตรี ทำให้ไม่สามารถพิจารณาเรื่องนี้ได้ และสภาฯ เห็นว่าเมื่อมีการชะลอเรื่องนี้ออกไป จึงควรกลับมาสู่เป้าหมายในการทำให้บริการระบบขนส่งสาธารณะถูกลง เพื่อให้ทุกคนใช้บริการได้ทุกวัน
ทั้งนี้ สภาฯได้รับข้อมูลจากคมนาคม โดยกทม.เสนอค่าโดยสารตลอดสายที่ 65 บาท ส่วนคมนาคม เสนอ 49.83 บาท โดยสภาฯได้คำนวนตัวเลขพบว่า หากลดค่าโดยสารของกระทรวงคมนาคมครึ่งหนึ่งจะทำใหัค่าโดยสารเหลือเพียง 25 บาทตลอดสาย กทม.ก็ยังมีกำไรถึง 2 พันล้านบาท ซึ่งสภาฯมองว่า เพียงพอแล้ว ขณะที่อัตราค่าโดยสารของกทม. ที่ 65 บาท จะทำให้มีกำไรถึง 6 แสนล้านบาทจาก ตัวเลขคาดการณ์ ณ ขณะนั้น ดังน้้น ค่าโดยสารที่ 49.83 ล้านบาท ของกระทรวงคมนาคม ก็จะมีกำไรถึงหมื่นบ้านบาท .ทำให้สภาฯ ได้ตัวเลขมา 1 ตัว คือ ราคาค่าโดยสารที่ 25 บาทต่อการเดินทาง ซึ่งประชาชนเป็นคนจ่ายทั้งหมด และจะขยายสัมปทานสายสีเขียวในขณะนั้น และมองว่า ค่าโดยสารที่ 25 บาทสามารถเป็นไปได้จริง
ขณะเดียวกัน สภาองค์กรของผู้บริโภค ยังได้ให้นักวิชาการทำงานวิจัยให้กับสภาฯในเรื่องนี้ ว่า ต้นทุนการเดินรถอยู่ที่ 10.30-16.10 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขต้นทุนที่สภาได้ทำการศึกษาในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขของกรุงเทพมหานคร ที่นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้ข้อมูลกับสภาองค์กรของผู้บริโภคจะอยู่ที่ประมาณ 11 ถึง 13 บาท และตัวเลขต้นทุนล่าสุดของกรมขนส่งทางราง ก็อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน