"คดีชั้น 14" ยังไม่จบ ถึงคิวเช็กบิล แพทย์-พยาบาล-จนท.รัฐ กว่า 20 ราย เอื้อประโยชน์ "ทักษิณ" ผิดกม.
ข่าวที่น่าสนใจ
9 ก.ย.2568 นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เจาะข่าวเด่น” ทางช่องท็อปนิวส์ ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้จำคุก นายทักษิณ 1 ปี คดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพราะไม่เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ถือว่าการบังคับโทษไม่เป็นไปตามคำพิพากษา ว่า จากการติดตามคดีนี้ ต้องขอบคุณศาลที่คืนความเป็นธรรมให้กับสังคม หลายคนปรามาสว่าคุกมีไว้ขังคนจน
วันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง ศาลได้ทำให้เห็นแล้วว่าคนเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีก็ติดคุกได้รับโทษจริง แม้ที่ผ่านมานายทักษิณจะเคยหลบหนีคดี 15-17 ปี และได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานอภัยลดโทษจำคุก จาก 8 ปีเหลือ 1 ปี แต่ก็ยังไม่ได้รับโทษจริง ตนเองในขณะที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา จึงได้รวบรวมหลักฐานคดีชั้น 14 ทั้งหมด ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ก่อนพ้นวาระ สว.
เพื่อเอาผิดกระบวนการทั้งหมดที่เกี่ยวข้อกับคดีนี้ โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวของ ไล่ตั้งแต่แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ กระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวง พยาบาล และผู้คุมเรือนจำ เพราะพบข้อพิรุธหลายอย่าง เอกสารต่างๆ ถูกปกปิด ถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้ต้องขังคนอื่นที่ไม่ได้รับสิทธิพิเศษเหมือนนายทุกษิณ และทำให้กระบวนการยุติธรรมเสียหาย และมติแพทยสภาก็สั่งลงโทษแพทย์ 3 รายก่อนหน้านี้
ส่วนแพทย์โรงพยาบาลตำรวจที่มีการอนุมัติเอื้อประโยชน์ให้ไปอยู่ชั้น 14 ซึ่งเป็นห้อง VVIP โดยไม่ได้เข้า ICU มีการออกใบรับรองแพทย์จากแพทย์ 30 วัน 60 วัน 120 วัน อันเป็นเท็จ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
และก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรับฟังการไต่สวนคดีชั้น 14 ทั้งหมด 12 ครั้ง ก่อนตั้งเรื่องสอบบุคคลที่เกี่ยวข้อเบื้องต้น 12 ราย และเชื่อว่า หลังมีคำสั่งศาลวันนี้จะมีการขยายผลเอาผิดบุคคลผู้ร่วมกระทำความผิดเอื้ออำนวยประโยชน์ให้นายทักษิณไม่ต้องรับโทษในเรือนจำเพิ่มอีกรวมกันไม่ต่ำกว่า 20 คน
สำหรับกลุ่มบุคคลที่ไปยื่นให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบคดีชั้น 14 ประกอบด้วย คณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน กลุ่มของนายสมชาย แสวงการ กลุ่ม นพ.หมอตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นพ.วรงค์ เดชกิจ วิกรม และ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส
ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับทีมข่าวท็อปนิวส์ว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเคยไปยื่น ป.ป.ช. นอกจากเอาผิดนายทักษิณแล้ว ยังมีการยื่นเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อศาลตัดสิน คำตัดสินก็จะมีผลผูกพันไปถึงทุกคนในทุกหน่วยงาน อย่างเช่น รัฐมนตรียุติธรรม ปลัดยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำ แพทย์ราชทัณฑ์ แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ
หลังจากนี้ ป.ป.ช.ต้องลุยสอบสวนต่อ บทสรุปเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องโดยข้อหา มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มีโทษจาคุก 15 ปี และ พ.ร.ป. ป.ป.ช. 2561 ม.172 ระบุว่า เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใด ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใด ในตำแหน่ง หรือใช้อำนาจในต่ำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหาย แก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ระบุโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี
และต้องให้ ป.ป.ช. เรียกครอบครัวนายทักษิณ มาสอบทุกคนว่าตอนไปเยี่ยมนายทักษิณป่วยวิกฤตจริงหรือไม่ โดยเฉพาะ อดีต “นายกฯ แพทองธาร” ตอนเป็นนายกฯเคยให้สัมภาษณ์ว่าพ่อป่วยหนักสาหัส หาก ป.ป.ช.เรียกมาสอบ และให้การแบบเดิมเท่ากับว่าให้ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 12 ราย ที่จะ ปปช.ไต่สวนกรณีนี้ แต่ยังไม่มีความผิดประกอบด้วย
1. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์
2. นายสิทธิ สุธีวงศ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์
3. นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์
4. นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
5. พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ เมื่อครั้งนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ
6. พลตำรวจโท ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ
7. พันตำรวจเอก ชนะ จงโชคดี นายแพทย์ (สบ 5) โรงพยาบาลตำรวจ แพทย์เจ้าของไข้ และผู้ออกใบความเห็นแพทย์
8. พลตำรวจตรี สามารถ ม่วงศิริ แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ออกใบความเห็นแพทย์
9. นายแพทย์ วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
10. แพทย์หญิง รวมทิพย์ สุภานันท์ แพทย์ผู้ตรวจร่างกายขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่
11. นายสัญญา วงค์หินกอง พัศดีเวร เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
12. นายธัญพิสิษฐ์ ขบวน พยาบาลเวร เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ขณะที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีการไต่สวนพยานคดีนี้ทั้งหมด 31 ปาก ประกอบด้วย
1.ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
2.แพทย์หญิงรวมทิพย์ สุภานันท์ แพทย์ตรวจร่างกายนายทักษิณตอนทำประวัติเข้าเรือนจำ
3.นายแพทย์นทพร ปิยะสิน แพทย์เวรกลางคืนวันที่ 22 ส.ค. 2566
4.นายธัญพิสิษฐ์ ขบวน พยาบาลเวรกลางคืนวันที่ 22 ส.ค. 2566
5.นางสาวจิราพร มีนวลชื่น พยาบาลผู้ช่วยตรวจร่างกายนายทักษิณตอนทำประวัติเข้าเรือนจำ
6.นางสาวณิชามล มากจันทร์ พยาบาลผู้ช่วยตรวจร่างกายนายทักษิณตอนทำประวัติเข้าเรือนจำ
7.นายสัญญา วงค์หินกอง พัสดีเวรในวันที่ 22 ส.ค. 2568 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
8.นายสมศักดิ์ บุดดีคำ ผู้ช่วยพัสดีและหัวหน้าเวรคนที่ 1 ในวันที่ 22 ส.ค. 2568 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
9.นายจารวัฒน์ เมืองไทย นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
10.นายธีระศักดิ์ คงหอม หัวหน้างานตรวจคน เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
11.นายเทวรุทธ สุนทร นักอบรมฝึกวิชาชีพพิเศษ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
12.นายนพรัตน์ ไกรแสวง นักทัณฑวิทยาปฏิบัติการ
13.นายเจนวิทย์ เรือนคำ เจ้าพนักงานราชทัณฑ์
14.นายศิวพันธุ์ มูลกัน เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายทักษิณช่วงอยู่โรงพยาบาลตำรวจ
15.นายนิภัทร์ชล หินสุข เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายทักษิณช่วงอยู่โรงพยาบาลตำรวจ
16.นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์
17.นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ตัวแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์
18.นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์
19.นายนัสดี ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
20.นายแพทย์พงศ์ภัค อารียาภินันท์ แพทย์ชำนาญการพิเศษรักษาราชการผู้อำนวยการทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์
21.นายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
22.พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ อดีตแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ
23.พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ
24.พันตำรวจเอกชนะ จงโชคดี แพทย์เวร รพ.ตร. ในคืนวันที่ 22 ส.ค. 2566
25.พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ หนึ่งในคณะแพทย์รพ.ตร.ที่ทำการรักษาอาการป่วยนายทักษิณ
26.พล.ต.ต.ศุภฤกษ์ พัฒนปรีชากุล หนึ่งในคณะแพทย์ รพ.ตร.ที่ทำการรักษาอาการป่วยนายทักษิณ
27.พล.ต.ต.สุรพล เกษประยูร หนึ่งในคณะแพทย์รพ.ตร.ที่ทำการรักษาอาการป่วยนายทักษิณ
28.ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่หนึ่ง
29.ศ.นพ.ไชยรัตน์ เพิ่มพิกุล กรรมการแพทยสภา และประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
30.ศ.นพ. กีรติ เจริญชลวานิช กรรมการแพทยสภา
31.วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง