วันที่ 9 ก.ย. 2568 ที่บริเวณลานบริษัท JLT GROUP บ้านด่านนอก เทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพิฆเนศองค์ใหญ่ได้มีการจัดพิธีบวงสรวงเนื่องในวาระที่พระพิฆเนศอายุครบ 10 ปี ซึ่งมีพระครูบัณฑิตธรรมลังการ เจ้าคณะอำเภอสะเดา เจ้าอาวาสวัดยางทอง เจ้าคณะอำเภอสะเดา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมกับ พระครูปลัดสุเมธ รกฺขิตธมมฺโม ดร.(ปู่เสือ) เทวสถานพระพิฆเนศ เป็นประธานสงฆ์ดำเนินการจัดงาน โดยมีน.ส.ณัฐกานต์ สายน้อย นายอำเภอสะเดา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมกับนางนงเยาว์ จิรันดร ผอ.ททท.หาดใหญ่ กำนันตำบลสำนักขาม เทศบาลตำบลสำนักขาม

พิธีบวงสรวงเริ่มต้นด้วยพรามณ์อ่านโองการถวายเครื่องสักการะ ซึ่งประกอบด้วยพวงมาลัยดอไม้ ผลไม้ และขนมหวานที่เป็นมงคล นาๆชนิด โดยเชื่อกันว่าการบูชาพระพิฆเนศจะช่วยขจัดอุปสรรคและนำพาความสำเร็จมาให้ นอกจากนั้นยังมีการรำระบำกฤฎาภินิหาร (จากโรงเรียนสะเดาขรรค์ชัย กัมพลานนท์อนุสรณ์ ) พร้อมทั้งบรรเลงเครื่องดนตรีปี่พาทย์ “วงทักษิณาวาทิต” ลำดับสุดท้ายเป็นการเจริญพระพุทธมนต์โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงก่อนพรามณ์จะทำพิธี ผู้ที่มาร่วมงานต่างวิตกว่าจะเกิดฝนตก เนื่องจากบรรยากาศโดยรวมมีเมฆฝนตั้งเค้า ทั้งนี้พอพรามณ์เริ่มอ่านโองการปรากฏว่าดวงอาทิตย์เริ่มส่องแสงลงมา พร้อมด้วยฝนที่โปรยลงมาเพียงเล็กน้อย เท่านั้น องค์พระพิฆเนศหรือ Ganesha องค์นี้เป็นปางประทานพรโดยผู้สร้างเป็นนักธุรกิจชาวมาเลเซีย ซึ่งมีความศรัทธาและต้องการให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและมาเลเซีย รวมทั้งผู้ที่ศรัทธาได้มากราบไหว้ขอพรตามความเชื่อ ซึ่งองค์พระพิฆเนศมีความสูง 30 เมตร หน้าตักกว้าง 20 เมตรโครงสร้างเป็นเหล็กถือปูน สีเหลืองอร่ามตั้งอยู่บนฐานคอนกรีตความสูง 10 เมตร ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี จึงแล้วเสร็จ งบประมาณก่อสร้างกว่า 30 ล้านบาท
โดยที่ในปัจจุบันนับว่าเป็นองค์พระพิฆเนศที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ และกลายเป็นจุดเช็คอินของบ้านด่านนอก เมืองท่องเที่ยวชายแดนไทย มาเลเซีย ทั้งนี้นอกจากจะมีองค์พระพิฆเนศองค์ใหญ่ให้กราบไหว้ขอพรแล้ว บริเวณด้านข้างยังมีศาลพระพรหมซึ่งเป็นที่เคารพสักการะที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งด้วย