สำหรับกรณีเมื่อวานนี้ที่มีการดำเนินคดีนายภูมิธรรมนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนและพรรคประชาชนไม่เห็นด้วย ที่จะใช้เครื่องมือทางกฎหมายในการดำเนินคดีดังกล่าว จึงขอเรียกร้องให้ทั้ง 2 คนนั้นถอนคำกล่าวโทษ เพื่อสร้างบรรยากาศในการหาทางออกให้กับประเทศ ไม่เห็นด้วยที่จะใช้กฎหมายเป็นการกลั่นแกล้ง หรือ นิติสงครามใดๆ

เมื่อถามถึงข้อกังวลว่าพรรคภูมิใจไทย อาจจะลุแก่อำนาจจากการที่พรรคประชาชนโหวตสนับสนุนนั้น นายณัฐพงษ์ ยืนยันในหลักการที่เราพูดมาโดยตลอด ว่าเราไม่เห็นด้วยกับกระบวนการนิติสงคราม ไม่ว่าจะพรรคภูมิใจไทยหรือใครก็ตามที่พรรคประชาชนได้ยืนยันในมติไปแล้วว่าเราจะเลือกสนับสนุน เราไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว ดังนั้นในฐานะหัวหน้าพรรค ขอส่งสัญญาณว่าเราไม่เห็นด้วยกับการฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายภูมิธรรมเมื่อวานนี้ รวมถึงบางอย่างที่ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งการดำเนินการต่อจากนี้ เราจะใช้เสียงในสภาที่เรามี กำกับทิศทางของประเทศให้เดินไปตามทางที่เราเห็นว่าถูกและควร ส่วนกรณีที่ถูกมองว่าจะกลายเป็นนั่งร้านให้กับพรรคภูมิใจไทยนั้น เป็นนั่งร้าน หรือไม่เป็นนั่งร้าน ก็อยู่ที่การแสดงออกและใช้เสียงในสภาของพวกเราเอง

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย จะเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ชิงนายกรัฐมนตรี นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในการดำเนินการของฝั่งพรรคเพื่อไทยเอง ก็อาจจะมีความย้อนแย้งในตัวเอง ทั้งที่ในพรรคมีการเตรียมเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ก็ยังมีกระแสข่าวว่าจะเตรียมยุบสภา ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ตนเรียกร้องขอความชัดเจนจากนายภูมิธรรมว่าตกลงแล้ว ได้ยุติกระบวนการยุบสภาแล้วหรือไม่อย่างไร

เมื่อถามว่า มติสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะเครดิตนายกรัฐมนตรี จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ไม่มีเปลี่ยนแปลงใดๆ และขอยืนยันอีกครั้งว่า มติของพรรคที่ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน แต่หากรัฐบาลยังคงคาราคาซัง ไม่ทำให้เกิดความชัดเจน พวกเราก็เห็นควรว่าควรจะดำเนินการตามที่ประธานสภาได้ใช้ดุลพินิจ บรรจุระเบียบวาระ เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ต่อไป

เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกต ที่ในตอนแรกพรรคประชาชนจะควบคุมพรคภูมิใจไทยด้วย MOA แต่เมื่อเกิดกระบวนการเช่นนี้ จะเป็นสัญญาณเริ่มว่าพรรคประชาชนจะคุมพรรคภูมิใจไทยไม่ได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า การเซ็น MOA ในครั้งนี้ เราไม่ได้ร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นเราไม่มีอำนาจใดๆไปสั่งห้ามไม่ให้เขาทำอะไรเป็นการล่วงหน้า ฉะนั้นการจัดตั้งรัฐบาล และการดำเนินการต่างๆ เป็นสิทธิ์ที่เขาจะทำ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเห็นว่ารัฐบาลทำไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นไปตามหลักการ เราก็พร้อมใช้เสียงในสภาที่เรามี

เมื่อถามย้ำว่าหากพรรคภูมิใจไทยผิดข้อตกลง แม้แต่ข้อเดียว พร้อมจะอภิปรายเลยใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทันที รวมถึงอาจจะดำเนินการอื่นใด ที่แม้ไม่มีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรกับตามข้อตกลง แต่ตามวิญญูชนจะสามารถเห็นได้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ก็เชื่อว่าพวกเราพร้อมยื่นอภิปราย ม.151 ทันที เช่น มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพื่อล้างคดีให้กับกลุ่มผลประโยชน์ของตัวเองนั้น เป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ ส่วนจะทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ ตนก็อยากให้ทุกๆ พรรค ไม่ว่าจะพรรคเพื่อไทยหรือใครก็ตาม ที่ทำหน้าที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็อยากให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามย้ำว่าหากโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไปแล้ว หรือแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีไปแล้ว เกิดความไม่ถูกต้องตามวิจารณญาณของวิญญูชน เราก็พร้อมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที

เมื่อถามถึงกรณีที่มีผู้สนับสนุนพรรครู้สึกไม่พอใจกับการตัดสินใจในครั้งนี้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในช่วงสั้นๆ นี้ ต้องยอมรับตามข้อเท็จจริงจากการประเมินกระแสต่างๆ ที่เราได้ยินมาว่าอาจจะยังมีโหวตเตอร์ หรือผู้สนับสนุนของพรรค บางส่วนที่ยังรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งพวกเราก็เข้าใจดี แต่เราได้ฟังเสียงทุกองคาพยพของพรรคอย่างรอบด้านแล้ว ซึ่งเชื่อว่าหาก 4 เดือนต่อจากนี้ พรรคประชาชนสามารถกำกับทิศทางให้เดินไปตามข้อตกลงที่มีการเซ็นร่วมกันได้ ก็เชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจดี

เมื่อถามว่า ฉากทัศน์เช่นนี้กังวลหรือไม่ว่าจะทำให้อำนาจนอกระบบที่กลัว ถูกแทรกแซงเข้ามาได้ง่ายขึ้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ เราประเมินอย่างรอบด้านแล้ว ก็คงไม่ได้กลัวอะไร เราพร้อมใช้เสียง สส.ที่เรามี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแบบนั้นส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคประชาชนถูกหลอกอย่างแนบเนียนที่สุดนั้น เป็นสิ่งที่แต่ละคนจะประเมินได้ ว่าถูกหลอกหรือไม่ถูกหลอกอย่างไร แต่เราประเมินฉากทัศน์มาอย่างรอบด้านแล้ว จึงคิดว่าทางเลือกนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดต่อประเทศ ไม่ใช่ต่อพรรคประชาชน

เมื่อถามว่า คิดถึงการเลือกตั้งรอบหน้าแล้วหรือยัง ว่าพรรคประชาชนอาจจะจับมือกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดไปถึงตรงนั้นว่าจะจับกับใคร ส่วนหากพรรคประชาชนไม่ได้เสียงข้างมาก จะสามารถรวมกับพรรคภูมิใจไทยได้หรือไม่นั้น ตอนนี้สิ่งที่ตนสามารถบอกได้ในนามหัวหน้าพรรคประชาชน คือ เราพร้อมลงสนามเลือกตั้ง และเป้าหมายของพรรคประชาชน คือการได้เสียงข้างมากในสภา