ส.ป.ก. จังหวัดเพชรบูรณ์ ขับเคลื่อนโครงการลดการเผาในพื้นที่เกษตร มุ่งสร้างเกษตรกรรมยั่งยืน ลดหมอกควัน เสริมคุณภาพชีวิตเกษตรกร

ส.ป.ก. จังหวัดเพชรบูรณ์ ขับเคลื่อนโครงการลดการเผาในพื้นที่เกษตร มุ่งสร้างเกษตรกรรมยั่งยืน ลดหมอกควัน เสริมคุณภาพชีวิตเกษตรกร

ปัญหาหมอกควันและมลพิษทางอากาศในหลายจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคเหนือตอนล่าง ยังคงเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพของประชาชน คุณภาพสิ่งแวดล้อม และการประกอบอาชีพด้านการเกษตรโดยตรง เนื่องจากการเผาเศษวัสดุทางการเกษตรเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของปัญหาดังกล่าว

ด้วยเหตุนี้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงได้ดำเนินการตาม แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน โดยมุ่งเน้นการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ และสร้างจิตสำนึกแก่เกษตรกร เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร ลดการเผา และหันมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่น เช่น การทำปุ๋ยหมัก การทำอาหารสัตว์ หรือการใช้วัสดุเหลือใช้ในระบบเกษตรผสมผสาน

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

การสร้างความรู้และต้นแบบเกษตรกรรมยั่งยืน นายรุ่งโรจน์ สถาพร ปฏิรูปที่ดินจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ส.ป.ก.เพชรบูรณ์ ได้ขับเคลื่อนโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยจัดกิจกรรมรณรงค์ สร้างเวทีแลกเปลี่ยน และส่งเสริมการเรียนรู้แก่เกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งได้รับความสนใจจากเกษตรกรและผู้นำชุมชนเข้าร่วมจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังมีการสร้าง แปลงต้นแบบเกษตรกรรมยั่งยืน และ แปลงวนเกษตร ในหลายพื้นที่ เพื่อแสดงให้เห็นถึงแนวทางการทำการเกษตรที่ไม่ต้องพึ่งพาการเผา แต่สามารถจัดการพื้นที่และทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

 

 

เกษตรกรต้นแบบ สร้างแรงบันดาลใจแก่ชุมชนหนึ่งในผู้ร่วมโครงการคือ นายจักรกฤช สุขใส กำนันตำบลลาดแค อำเภอชนแดน ซึ่งได้เข้าร่วมโครงการลดการเผากับ ส.ป.ก. จังหวัดเพชรบูรณ์ และน้อมนำแนวทางเกษตรกรรมยั่งยืนมาใช้ในพื้นที่ของตนเองนายจักรกฤช กล่าวว่า “เมื่อก่อนเกษตรกรจำนวนมากเลือกใช้วิธีการเผาเพราะสะดวก แต่พอได้เข้ามาร่วมโครงการ ได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริง ทำให้เห็นว่ามีวิธีการอื่นที่ช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต และไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันแปลงของผมกลายเป็นแปลงต้นแบบให้เกษตรกรในพื้นที่ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้”

นอกจากนั้น ยังมีเกษตรกรอีกหลายรายที่ปรับเปลี่ยนวิถีการผลิตตามแนวทางที่ ส.ป.ก.สนับสนุน เช่น การทำวนเกษตรผสมผสาน ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ และสร้างรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น

 

 

 

 

 

ผลลัพธ์และความสำเร็จของโครงการ นายรุ่งโรจน์ สถาพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จของโครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดการเผาและลดมลพิษทางอากาศ แต่ยังช่วยเสริมสร้างความรู้ใหม่ให้แก่เกษตรกร ทำให้สามารถปรับใช้ในแปลงของตนเองได้จริง เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น สุขภาพดีขึ้น และสิ่งแวดล้อมได้รับการฟื้นฟู โครงการดังกล่าวจึงถือเป็นก้าวสำคัญของ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย ควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อความมั่นคงและยั่งยืนของภาคการเกษตรในอนาคต

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

หนีไม่รอด! ทหาร-ตร. สกัดกระบะขนบุหรี่เถื่อนกลางดึก มูลค่าปรับพุ่ง 4 ล้าน
"นฤมล" เปิดสัมมนาขับเคลื่อนมาตรฐานการศึกษาชาติ ชูแนวคิดนำ AI ต่อยอดพัฒนาความรู้ยุคดิจิทัล ให้เป็นรูปธรรม
คืบหน้าเหตุวุ่น "กกล.บูรพา" ร่วม ตร. เข้า ควบคุมมวลชนกัมพูชา รุกล้ำประท้วง บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว
"อนุทิน" มั่นใจปชน.ยึดข้อตกลงเดิม หลังเพื่อไทยพลิกเกม ชวนเลือก "ชัยเกษม" ยุบสภาฯทันที
"แม่ทัพภาคที่ 1" ลงพื้นที่ชายแดนสระแก้ว ติดตามสถานการณ์รุกล้ำที่ดิน-พบปะชรบ. ย้ำแก้ปัญหาตามขั้นตอน
"ภูมิธรรม" รับแล้ว "สำนักงานองคมนตรี" เห็นไม่สมควรนำร่างพ.ร.ฏ.ยุบสภาฯขึ้นทูลเกล้าฯ เหตุยังมีข้อโต้แย้งไม่เป็นที่ยุติ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​