วันนี้ (3 ก.ย.68) ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. และโฆษกกระทรวงกลาโหม และ นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมประจำวันพุธที่ 3 กันยายน 2568
โดยพลเรือตรีสุรสันต์ กล่าว ว่า ในภาพรวมยังคงมีการตรึงกำลัง ของทั้งสองฝ่ายสถานการณ์โดยทั่วไป ถือว่าอยู่ในภาวะสงบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากห้วงเวลาที่ผ่านมา ขณะที่ผลการดำเนินงานของคณะทำงานผู้สังเกตการณ์ทั่วไป หรือ IOT โดยกองบัญชาการกองทัพไทยได้นำคณะ เดินทางลงพื้นที่ในความรับผิดชอบของหน่วยบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และเดินทางลงจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กสังเกตหลักเขตแดนที่ 73 หลักเขตแดนสุดท้ายทางบก แสดงการปักปั่นเขตแดนที่ตั้งอยู่บริเวณบ้านหาดเล็กจังหวัดตราด ก่อนที่จะเดินทางไปยังขอร้อยทหารพรานที่ 537 เพื่อเยี่ยมชมการปฏิบัติและรับทราบการปฏิบัติงานในการเก็บกู้ทุนระเบิดของกองทัพเรือ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขา ยากต่อการเข้าถึงและต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังของทางฝ่ายกัมพูชาติดอาวุธแสดงให้เห็นถึงความท้าทาย และยากลำบากในการดำเนินการ ก่อนเยี่ยมชมบ้านเขาล้านซึ่งเป็นศูนย์อพยพของชาวกัมพูชาในอดีต โดยขั้นตอนของการรายงานทุกฉบับจะถูกจัดส่งไปยังคณะ เพื่อนำเสนอผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการ ของทั้งสองประเทศผ่านกลไกลตามประสานงานของกองทัพ และคณะผู้สังเกตการณ์เน้นย้ำว่า ไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินว่าฝ่ายใดถูกหรือผิดแต่จะทำหน้าที่สังเกตการณ์เก็บข้อมูลและรายงานอย่างเป็นธรรม
ขณะที่แผนงานการจัดการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC สมัยวิสามัญครั้งที่ 2/2568 มีกำหนดการจัดระหว่างวันที่ 7-10 กันยายน 2568 ในพื้นที่จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา โดยรูปแบบของการประชุมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือการประชุมของฝ่ายเลขานุการร่วม ช่วงวันที่ 7-9 กันยายนและจากนั้นในวันที่ 10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC หลัก และจะมีการแถลงข่าวหลังการประชุมในพื้นที่จังหวัดตราด
ขณะเดียวกันการติดตามการดำเนินการบริหารจัดการบริเวณชายแดนพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ในวันนี้ที่ประชุมศบ.ทก. จังหวัดสระแก้ว โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ชี้แจงนำเสนอแนวทางการดำเนินการในการเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับประชาชนชาวไทย ในพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว โดยมีแผนในการจัดสร้างรั้วระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร บริเวณหลักเขตแดนที่ 50-51 ซึ่งถือเป็นหลักเขตแดนที่มีการสำรวจและได้ข้อยุติเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับจะมีการสำรวจสิทธิการครอบครองที่ดินในพื้นที่อย่างละเอียด ตลอดจนมีมาตรการดำเนินการตามกฎหมายของไทยในการประกาศใช้กฎหมายกับชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่และแจ้งความดำเนินการกับราษฎรกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งที่ประชุมศบ.ทก.เห็นชอบในหลักการที่จังหวัดสระแก้วได้เสนอมา และจะนำข้อมูลต่างๆเหล่านี้นำเสนอต่อที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในวาระแห่งต่อไป เพื่อขออนุมัติ