ในตลาดเครื่องประดับอัญมณีของมุมไบ นางกวิตา โจกานี ได้นำกำไลทองคำของเธอออกขาย เธอเป็นหนึ่งในชาวอินเดียหลายพันคนที่ยอมขายทรัพย์สินตัวเองเพื่อความอยู่รอด เนื่องจากธุรกิจตัดเย็บเสื้อผ้าของเธอได้รับผลกระทบอย่างหนักในปีที่ผ่านมาจากการล๊อคดาวน์หลายครั้ง จนภาวะทางการเงินของธุรกิจเธอต้องหยุดชะงัก และไม่สามารถจ่ายเงินเดือนให้พนักงานที่เธอมีอยู่ 15 คนได้
การปิดกิจการและการตกงานส่งผลให้ชาวอินเดียกว่า 230 ล้านคนประสบภาวะยากจนลงในปีที่ผ่านมา ความยากลำบากของพวกเขาได้เพิ่มมากขึ้นไปอีก หลังจากราคาไฟฟ้า และ เชื้อเพลิง รวมถึงข้าวของต่างๆ พุ่งสูงขึ้น หลายครอบครัวและธุรกิจขนาดเล็กต่างขาดแคลนเงินทอง การนำทองออกขายหรือนำไปเป็นหลักประกันเงินกู้ระยะสั้น คือทางเลือกสุดท้ายของพวกเขา
ข้อมูลของธนาคารกลางระบุ ธนาคารต่างๆได้มีการปล่อยเงินกู้ทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมาก และสุดท้ายผู้กู้ก็ไม่สามารถชำระหนี้ได้ จนทองคำเหล่านั้นต้องถูกนำออกประมูลมากมาย
ทั้งนี้ สำหรับชาวอินเดียแล้ว ทองคำมีความสำคัญทางการเงินและวัฒนธรรมอย่างมาก โดยถือเป็นสิ่งสำคัญในงานแต่งงาน วันเกิด และพิธีทางศาสนา และยังถูกมองว่าเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัยที่สามารถถ่ายทอดจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งได้
ด้านคูมาร์ เชน วัย 63 ปี เจ้าของร้านทองในซาเวรี บาซาร์ อันเก่าแก่ของมุมไบ โดยเป็นกิจการที่ตกทอดในครอบครัวมาเป็นเวลา 106 ปี กล่าวว่า เขาไม่เคยเห็นคนมาขายทองมากมายขนาดนี้มาก่อน ลูกค้าของเขา ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงได้ขายเครื่องประดับส่วนตัวมากมายในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกำไลทอง แหวน สร้อยคอ และต่างหู สิ่งที่เขารู้สึกแย่คือเมื่อผู้หญิงต้องขายสร้อยคอ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นแต่งงานแล้ว มีหญิงสาวมากมายต้องร้องไห้ เมื่อต้องถอดออกมาขาย
แม้ว่าตัวเลขการเติบโตได้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในอินเดียที่ใหญ่เป็นอันดับสามของเอเชีย กำลังฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19 แต่ชาวอินเดียจำนวนมากยังคงประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก และยังคงต้องดิ้นรนหาทางรอดด้วยตัวเองต่อไป