วันนี้ 1 ก.ย. 68 นายคมสัน โพธิ์คง” นักวิชาการนิติศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ท็อปนิวส์ ประเด็นที่พรรคประชาชนมีอำนาจต่อรอง ในการโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ สะท้อนว่าพรรคการเมืองทั้งสองพรรค ยอมก้มหัวให้พรรคประชาชนครอบงำหรือไม่ ว่า ตนมองว่าท่าทีของพรรคประชาชน คล้ายกับเป็นพรรคที่สามารถควบคุมสถานการณ์การเมือง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้ อีกทั้งสังคมได้ตั้งคำถามว่า การควบคุมดังกล่าวจะเข้าข่ายครอบงำพรรคการเมืองหรือไม่ เรื่องนี้ตนมองว่าไม่เข้าข่ายครอบงำแต่อย่างใด เพราะการครอบงำพรรคการเมือง เป็นเรื่องของบุคคลที่ไม่มีสิทธิ์ หรือไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง หรือผู้ถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง กระทำการครอบงำพรรคการเมือง แต่ไม่ใช่การที่พรรคการเมืองต่อรองกันว่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ ตนมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องปกติ พูดง่ายๆ ว่าเป็นเรื่องของการต่อรองทางการเมืองปกติที่ทำกันมาโดยตลอด เพียงแต่ว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่ปกติแค่นั้นเอง โดยสรุปไม่เข้าข่ายประเด็นพรรคประชาชนครอบงำทางการเมือง เพราะไม่อยู่ในเงื่อนไขของข้อกฎหมาย เพราะการต่อรองของพรรคนั้นใครที่มีเสียงสส.มากกว่า หรือใครที่เป็นเงื่อนไขปัจจัยในการกำหนดเกมของการเมืองในสภาฯ เรื่องนี้ตนมองว่าเป็นการต่อรองทางอำนาจธรรมดา แต่ไม่ใช่การครอบงำพรรคการเมือง
นายคมสัน อธิบายอีก ว่า การครอบงำพรรคการเมืองนั้น เช่น การไปตกลงกันในที่แห่งหนึ่งหรือแห่งใด ซึ่งประกอบด้วยหลายพรรค อีกทั้งมีบุคคลคนหนึ่งที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ไปครอบงำพรรคหลายๆ พรรค เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งเป็นนี้เข้าข่ายครอบงำชัดเจน เว้นแต่ว่าคนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เข้ามามีอิทธิพลเหนือพรรคการเมือง จึงจะเข้าค่ายครอบงำพรรคการเมือง จึงจะเข้าข่ายการครอบงำการเมืองว่าด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง