“บิ๊กเต่า” เดินหน้าร้องกมธ.ตำรวจ โผแต่งตั้งตร.ไม่เป็นธรรม หวั่นรุ่นน้องเสียกำลังใจทำงานหนัก ลั่นขอพลีชีพเปลี่ยนวงการสีกากี

"บิ๊กเต่า" เดินหน้าร้องกมธ.ตำรวจ โผแต่งตั้งตร.ไม่เป็นธรรม หวั่นรุ่นน้องเสียกำลังใจทำงานหนัก ลั่นขอพลีชีพเปลี่ยนวงการสีกากี

วันที่ 28 ส.ค.68 ที่รัฐสภา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้าร้องขอความเป็นธรรมในการพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนและโยกย้ายตำแหน่ง ต่อนางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ตนเองมาในฐานะผู้ร้องขอความเป็นธรรมกับคณะกรรมาธิการตำรวจ ความจริงได้ร้องไปยังนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการแทนนายกรัฐมนตรีแล้ว
การร้องต่อสภาฯ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนกระบวนการตำรวจให้ไปในแนวทางที่ถูกต้องชอบธรรม การมาวันนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างความแตกแยกในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่มองว่าเราน่าจะเป็นตัวแทนของผู้ที่ถูกริดรอนอีกหลายคน ไม่ได้ร้องเพื่อตนเอง แต่ร้องให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ทบทวน ยึดวิธีคิดและแนวปฏิบัติ

ในช่วงปฏิวัติไม่มี พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 เกิดความเหลื่อมล้ำในการพิจารณา แต่เมื่อมี พ.ร.บ.ตำรวจฯ แล้ว ต้องกลับเข้ามาสู่หมวดของการดำเนินการตามกฎหมาย โดย พ.ร.บ.ฉบับนี้จะมีการยกระดับมาตรฐานการพิจารณาในแง่ต่าง ๆ ที่จะเป็นคุณ เป็นธรรมกับคนที่ทำงานโดยตรง เมื่อก่อนใช้ระบบอุปถัมภ์ แต่เมื่อ พ.ร.บ.ฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายและเจตนารมณ์ในการแบ่งส่วนผู้ที่มีคุณสมบัติอาวุโสไว้ 50% ส่วนอีก 50% ให้คำนึงความอาวุโสและความความสามารถ เพื่อต้องการให้คนทำงานได้รับขวัญและกำลังใจในการพิจารณาเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การที่มีกฎเกณฑ์กติกาเช่นนี้แล้ว หากไม่ปฏิบัติหรือเลือกปฏิบัติ ผลสัมฤทธิ์ออกมาก็บ่งบอกถึงการใช้ดุลยพินิจที่อาจจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย

ตนเองในฐานะที่ดูแลงานทุจริต เคยเป็นอดีตผู้บังคับการปราบปรามการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ดูแลงานทุจริตอย่างต่อเนื่อง มองว่าการกระทำที่เกิดขึ้นหมิ่นเหม่ต่อข้อกฎหมาย เรารู้ว่าผลลัพธ์เกิดขึ้นใกล้ตัวกับผู้มีอำนาจและไม่มีผลปฏิบัติอย่างแท้จริง

“เรารู้เห็นเพราะเราทำงานด้วยกันมา เรารู้ว่าใครเป็นอย่างไร ใครขาว ใครเทา ใครดำ สิ่งหนึ่งที่สภาฯ และคณะกรรมธิการจะทำได้คือ การให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ทุกภาคส่วนด้วยความเสมอภาค”

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายคือ ต้องการเห็นตำรวจตั้งใจทำงานให้ประชาชน ได้รับความยุติธรรม ได้รับสิ่งที่ผู้บังคับบัญชามอบให้ ถ้ากลับไปเป็นระบบอุปถัมภ์แม้ พ.ร.บ.มีการประกาศใช้แล้ว จะนำมาซึ่งความเสื่อม เพราะทุกคนมองแล้วว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ต้องมีการบังคับใช้ในทางที่ถูกต้อง แต่การชะลอคำสั่งใน พ.ร.บ.ฉบับนี้แล้วไม่เอาผลปฏิบัติงานมาใช้ จะทำให้ตำรวจเสียขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ อยู่กันแบบเช้าชามเย็นชาม

ที่ผ่านมามีเพื่อนพี่น้องหลายคนที่เข้ามาพบตนเองแล้วบอกว่า หลายคนมีฝีมือแต่ไม่ได้รับการแต่งตั้ง น้อง ๆ ที่กำลังจะโตขึ้นในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นดาวรุ่งจะทำไปทำไม ในเมื่อไม่พิจารณาเรื่องความรู้ความสามารถส่งผลไปถึงการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ หากเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ประชาชนก็จะไม่ได้ ตามหลักการความเป็นธรรมจะต้องมาจากข้างบนและมาสู่ข้างล่าง

ตนเองจึงอยากมาแก้ไขในองค์กรของตนเอง ไม่ได้ไม่เป็นไร ตนเองเป็นตัวแทนของพี่ ๆ น้อง ๆ หลายคนเพื่อสะท้อนไปถึง ก.ตร.ให้วิเคราะห์พิจารณาให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้หวังมาสร้างความเสียหายหรือป่วน ย้ำว่าไม่ได้ไม่เป็นไร ขอแค่ให้ ก.ตร.ให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วนเหมือนกัน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่าอยากให้คณะกรรมาธิการผลักดัน พ.ร.บ.ตำรวจฯ เพื่อเป็นเครื่องการันตีให้เจ้าหน้าที่ทั่วประเทศได้รับสิทธิ์ และขวัญกำลังใจในการทำงาน มาแข่งกันทำงาน แข่งกันทำความดีกับพี่น้องประชาชน ใครที่เทา ๆ ดำ ๆ จะต้องมีการพิจารณาว่าไม่ควร

นางสาวสุณัฐชา กล่าวว่า “บิ๊กเต่าคนดัง“ ตนเองติดตามการทำงานของท่านมานานเพิ่งจะได้เจอตัวจริงวันนี้ เรื่องนี้มีหนังสือร้องเรียนมายังคณะกรรมมาธิการบ่อยครั้ง เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการตำรวจที่จะต้องติดตามปัญหาและหยิบยกประเด็นมาพิจารณาโดยใช้กลไกของสภาฯ เป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปองค์กรตำรวจทำให้เกิดความชอบธรรม เช่นกรณีนี้คณะกรรมาธิการพร้อมรับฟังและจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ

โดยเมื่อเช้านี้คณะกรรมาธิการตำรวจมีการประชุมไปแล้วนัดหนึ่ง มีมติว่าจะนำกรณีนี้เข้าสู่การพิจารณานัดถัดไป จะมีการพิจารณาหลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนตำแหน่งในภาพรวม นอกจากนี้ยังมีมติให้คณะกรรมการออกหนังสือเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน เข้าร่วมชี้แจงด้วยตนเองต่อคณะกรรมาธิการในวันที่ 4 ก.ย.68 เชื่อว่าจะเป็นกลไกหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้กระจ่างชัดขึ้น

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทุกคนอยากเห็นเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ตำรวจฯ ที่ได้ผ่านสภาฯ เมื่อสมัยประชุมที่แล้ว ปี 65 กฎหมายฉบับนี้มีเจตนาให้ความเป็นธรรมแก่ข้าราชการตำรวจทุกนายโดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนตำแหน่ง เชื่อว่าหากมีการปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัดจะเป็นขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจทุกนาย

”องค์กรตำรวจถือเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ หากองค์กรตำรวจมีความเป็นธรรม สังคมเราก็จะมีความเป็นธรรม ตำรวจก็จะเป็นที่พึ่งของประชาชนโดยแท้จริง“

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการสอบถามผู้บังคับบัญชาหรือไม่ ในกรณีที่ไม่มีชื่อตนเองในบัญชีโยกย้าย รวมถึงการเข้าร้องเรียนคณะกรรมาธิการ ถือเป็นความไม่ไว้วางใจในระบบของก.ตร หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ก่อนดำเนินการทุกอย่าง ได้เห็นข้อมูลในบัญชี ที่ผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองชุดเล็กแล้ว ซึ่งเป็นชื่อของบุคคลที่ใกล้ชิดผู้มีอำนาจ บางคนที่อยู่ในบัญชี ก็ไม่มีความรู้ความสามารถที่เพื่อนตำรวจจะเห็นได้

“มีตำรวจหลายคนไม่กล้าออกมา ไม่กล้าพูด เพราะกลัวนายจ้องเล่นงาน แต่ผมเหมือนหนังหน้าไฟ เพราะเราสู้กับความถูกต้อง ความเป็นธรรมมาเยอะ เป็นสิทธิที่ข้าราชการจะออกมาเรียกร้อง ไม่ใช่เรื่องที่ผู้บังคับบัญชาจะมามอบหมาย”

 

 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ย้ำว่าการยื่นร้องต่อคณะกรรมาธิการตำรวจเพื่อผลต่อตนเอง แต่ได้พูดไปถึงผู้ที่มีสิทธิ์ทั้งหมด เช่น ผู้บัญชาการอายุราชการ 4 ปี ก็ไม่พิจารณา แต่ไปดูคนอื่นที่อายุเกินจริงไปอีก 1 ปี ซึ่งนี่ถือเป็นข้อชัดเจนแล้วว่าไม่ได้ใช้หลักการประเมิน แต่ใช้หลักดุลยพินิจ เพราะมีคำสั่งชะลอการประเมินจากสำนักงานกำลังพล (ตร.) ในวันที่ 29 ก.ค.68 การออกมาครั้งนี้ถือว่าเป็นการพลีชีพ ตนเองเป็นคนจริง แก้ปัญหาสร้างความเปลี่ยนแปลงของหน่วยงานมาเยอะ พระก็เปลี่ยนแล้ว ตอนนี้จะมาเปลี่ยนตำรวจด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากคำสั่งออกมาตามบัญชีแต่งตั้ง จะฟ้องเรื่องนี้กับศาลปกครองหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ส่วนนี้ไว้ทีหลัง แต่ตนเองดูถึงการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ด้วย เพราะตนเองทำงานเรื่องนี้และมีการพูดคุยกันหลายรอบ การที่จะเข้าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ก็ต้องดูผลสัมฤทธิ์และดูรายชื่อที่จะออกมา จะเข้าหรือไม่เข้าต้องว่ากันอีกที ศาลปกครองไว้ทีหลัง แต่เราจะพิจารณาอย่างไรขอดูก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ" ประณามกัมพูชา ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทำทหารไทยขาขาด 1 นายที่ปราสาทตาควาย
“นฤมล” รับสะเทือนใจ เหตุนร.เขมรถูกจับ ย้ำศธ.ยึดหลักมนุษยธรรม พร้อมดูแลปัญหาร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้อง
ปทุมธานี-ตร.ทางหลวงหน้าแตกดักจับรถสิบล้อน้ำหนักเกินแต่พอชั่งแล้วไม่เกินรีบเผ่นแน่บ
"อธิบดีอัยการฯ" ยื่นมือช่วยนร.เขมรโดนแจ้งจับในไทย "ภูมิธรรม" สั่งการมท.เร่งหาทางออกดีที่สุด
หลักฐานชัดมาก เปิดคลิปมือถือทหารกัมพูชา ที่ไทยเก็บได้ ภาพเสียงครบ ทั้งสอนวาง-เก็บกู้ทุ่นระเบิด
ชาวบ้านค้อทอง จ.อุบลราชธานี ขอบคุณ "ดร.เฉลิมชัย" หนุน "น้ำบาดาลระยะไกล" แก้ปัญหาน้ำกินน้ำใช้ในพื้นที่

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​