เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ต.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.ระยอง,
พ.ต.อ.วรวุฒิ ชัยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง,
พ.ต.อ.จิราวัฒน์ ศักดิ์ศรีวัฒนา รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง,
พ.ต.อ.อภิชนัน วัฒนวรางกูร ผกก.สืบสวน ภ.จว.ระยอง,
พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ คำมาตย์ ผกก.สภ.บ้านฉาง และ
พ.ต.ท.ศิริ ศิริมี รอง ผกก.สส.สภ.บ้านฉาง
นำโดย พ.ต.ท.อาทิตย์ ศรีสิงห์ สว.สส.สภ.บ้านฉาง พร้อมชุดสืบสวน ดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในพื้นที่อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง จนสามารถ ทลายเครือข่ายจัดหาบัญชีม้า ได้สำเร็จ
จับกุม 2 ผู้ต้องหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 ราย ได้แก่
- 
นางโสภา ฉลาดหา อายุ 47 ปี
- 
นายธัญญกฤษณ์ ทองฤทธิ์ อายุ 30 ปี
ในข้อหา “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดอาญาอื่นใด”
พฤติการณ์ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านฉาง ได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีกลุ่มบุคคลตระเวนจัดหาบัญชีม้าในพื้นที่ เพื่อส่งต่อให้แก๊งมิจฉาชีพฝั่งประเทศกัมพูชา โดยจะว่าจ้างประชาชนมาเปิดบัญชีธนาคาร แล้วรวบรวมส่งให้เครือข่ายข้ามชาติใช้ในการกระทำความผิด
 
  
 
เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์จนพบว่าผู้ต้องหาได้พาบุคคลมาเปิดบัญชีที่ธนาคารออมสิน สาขาในพื้นที่ และนัดส่งมอบสมุดบัญชีบริเวณอาคารจอดรถห้างโลตัส บ้านฉาง ก่อนเข้าจับกุมได้พร้อมของกลางทั้งหมด
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่าได้ร่วมกันจัดหาบัญชีม้าส่งให้แก๊งมิจฉาชีพฝั่งกัมพูชา มาประมาณ 1 เดือน รวมกว่า 10 บัญชี
ของกลางที่ตรวจยึดได้
- 
สมุดบัญชีธนาคารรวม 8 เล่ม (ออมสิน, กรุงไทย, ไทยพาณิชย์, กรุงเทพ, เกียรตินาคิน)
- 
บัตรกดเงินสดรวม 5 ใบ
- 
โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง
- 
แท็บเล็ต 1 เครื่อง
- 
กระดานไวท์บอร์ด 4 แผ่น
- 
สายชาร์จ 8 ชุด และหัวชาร์จ 6 ชิ้น
การดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านฉาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวน สภ.บ้านฉาง ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.ระยอง ยังคงเร่งขยายผล เพื่อตามจับผู้ร่วมขบวนการบัญชีม้า และเชื่อมโยงถึงเครือข่ายแก๊งมิจฉาชีพข้ามชาติที่อยู่เบื้องหลัง
 
  
 
ตำรวจฝากเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพที่ว่าจ้างให้เปิดบัญชีหรือขายบัญชีธนาคาร เพราะถือเป็น “บัญชีม้า” ซึ่งเข้าข่ายมีความผิดทางอาญา และอาจถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกระทำผิดกับขบวนการหลอกลวงทางเทคโนโลยีได้
 
  
 
 
								 
															

