ตราด แม่น้ำตาไหล แจ้งตำรวจช่วยพาลูกไปบำบัด แม่ เผย เป็นรอบที่ 3 แล้ว เพื่อนบ้านกังวลไม่ปลอดภัย

แม่น้ำตาไหล แจ้งตำรวจช่วยพาลูกไปบำบัดยาเสพติด หลังมีอาการคลุ้มคลั่ง จุดไฟ ถือมีดเดิน ตำรวจถึงบ้านยอมโดยดีให้พาไปบำบัด แม่ เผย เป็นรอบที่ 3 แล้ว เพื่อนบ้านกังวลไม่ปลอดภัย

จ.ตราด/เวลา 10.30 น. วันที่ 25 สิงหาคม 2568 สถานีตำรวจภูธรเมืองตราด ได้รับแจ้งมีเหตุชายคลุ้มคลั่ง ที่บ้านเช่าหลังหนึ่งใกล้เคียงวัดวรดิตถาราม ม.1 ต.วังกระแจะ อ.เมือง หลังรับแจ้งประสาน ร.ต.อ.จตุรงค์ ต่างหู หัวหน้าตำรวจสาย สภ.เมืองตราด พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจ นายราเชนทร์ ชอบรส ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 และ อาสากู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด โดยมีเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจังหวัดตราด ร่วมสนับสนุนที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ที่ต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 50 เมตร โดยตำรวจนำอุปกรณ์ไม้ง่ามพร้อมโล่กันบัง เพื่อเตรียมชาร์ทตัว เมื่อตำรวจเดินไปถึงหน้าประตูบ้านได้ตะโกนเรียกชื่อนายเอก (นายสมชาย หอยสังข์ อายุ 39 ปี)ให้ออกมาพบจากบ้าน ซึ่งนายเอก ยินยอมและออกมาจากบ้านแต่โดยดี เบื้องต้นพบว่า อยู่ในอาการคล้ายเหมือนเสพยาเสพติด สายตาแข็ง ขาขวามีกำไร EM คล้องข้อเท้าอยู่ เนื่องจากอยู่ในการคุมประพฤติ หลังถูกจับคดีเสพยาเสพติด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากนั้น ร.ต.อ.จตุรงค์ ได้แจ้งกับนายเอก ว่า จะพาไปรักษาที่โรงพยาบาลตราด ซึ่งนายเอกก็ยินยอมและออกไปขึ้นกู้ภัยทันที โดยมีตำรวจคุมตัวอย่างใกล้ ซึ่งเจ้าหน้าที่คุมประพฤติให้ข้อมูลว่า หลังได้รับแจ้งจากตำรวจแล้ว ทางคุมประพฤติได้ใช้มาตรา 39 (4) วิธีการเพื่อความปลอดภัยกับนายเอก คือ การคุมไว้ในสถานพยาบาล เนื่องจากนายเอก เป็นผู้ป่วยที่ต้องรับการบำบัด

ขณะที่แม่นายเอก อายุ 65 ปี กล่าวว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านเช่าที่เช่าไว้ให้ลูกชายได้พักอาศัยหลังจากอยู่ในการคุมประพฤติ และตนเองเพิ่งมาอยู่กับลูกชายได้ 2 วัน ก็พบว่า ลูกชายมีอาการเหมือนคนเสพยาเสพติด เดินทั้งวันทั้งคืน จุดไฟ ถือมีดเดินรอบบ้าน กลัวบ้านจะถูกไฟไหม้ ซึ่งสาเหตุมาจากอาการหลอน เพราะเคยเสพยาติด และรักษาอาการมาแล้ว 2 ครั้ง มีอาการดีขึ้น และช่วงหลังเริ่มมีเพื่อน ก็เริ่มติดยาเสพติดอีกรอบ ซึ่งวันนี้ตนเองเป็นผู้แจ้งตำรวจเอง เพื่อให้พาลูกชายไปบำบัด 2 ครั้งที่ผ่าน ตนเองก็เป็นคนแจ้ง อยากให้ลูกไปบำบัด อยากให้ลูกหาย เพราะตนเองแก่แล้ว เส้นเลือดในสมองตีบด้วย ลูกชายก็ยังมีลูกอีก 2 คน ที่ต้องเลี้ยง เพราะแม่ทำอะไรไม่ได้ ต้องการให้ลูกหายดี

ด้านนางสมบูรณ์ อายุ 68 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า นายเอก มีการอาการหลอนติดยาเสพติดมาตั้งแต่อยู่ที่อำเภอคลองใหญ่แล้ว เมื่อย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ยังมีอาการหลอนยาเสพติด อาระวาด แหกปาก ร้องโวยวาย ชาวบ้านในพื้นที่มีความกลัวเป็นอย่างมาก ไม่อยากให้นายเอกอยู่ในลักษณะแบบนี้ เพราะอันตราย เกรงว่าจะทำร้ายเด็ก และที่ผ่านมานายเอก ก็เคยมีพฤติกรรมที่จะใช้ขวานฟันคอหลานตนเอง แต่โชคดีที่ตนเองและลูกเขยช่วยเอาไว้ได้ไม่ได้รับอันตรายอย่างใด เพราะนายเอก เคยใช้มีดฟันแมวจนหัวหลุดกระเด็นมาแล้ว

ส่วนนายราเชนทร์ กล่าวว่า หลังจากจะต้องเวียนมาดูนายเอกบ่อย ๆ หลังจากเข้ารับการบำบัดแล้ว หากยังมีการอาการหลอนจะส่งตัวไปยัง รพ.สต.บ้านท้ายวัง เพราะเข้าสู่กระบวนการบำบัดต่อ อีกส่วนหนึ่งจะต้องติดตามว่า แม่นายเอก จะสามารถทำให้นายเอกกินยารักษาได้ตามที่หมอสั่งหรือไม่ ส่วนความหวาดกลัวของชาวบ้านนั้น ก็ต้องยอมรับว่า ชาวบ้านไม่อยากให้นายเอกอยู่แล้ว แต่ได้กำชับให้ชาวบ้านระวังตัวมากขึ้น สังเกตอาการนายเอก หากมีท่าไม่ดีให้แจ้ง 191 หรือผู้ใหญ่บ้านก็ได้ เพื่อให้เข้าระงับเหตุได้ทันท่วงที

ภาพ/ข่าว จักรกฤชณ์ แววคล้ายหงษ์ ญาณี แววคล้ายหงษ์ ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.ตราด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผบ.ตร. มอบ “พล.ต.อ.ธนายุตม์” นั่งหัวโต๊ะ ขับเคลื่อนงาน ศปก.ตร. ผ่าน Zoom
"กรมการศาสนา" เชิญร่วมงานมหกรรมสุดยิ่งใหญ่แห่งปี "สีสันแห่งศรัทธา พัฒนาชุมชนพลังบวร"
เมืองคอนร่วมเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศมาเลเซีย-ประเทศไทย
"มนพร" เปิดสัมมนาสรุปผลการศึกษา "โครงการแลนด์บริดจ์" มอบ "สนข." เดินหน้าประกาศประกวดราคาหานักลงทุน ผลักดันโครงการให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ ดึงภาครัฐ - เอกชน - ประชาชน ร่วมเสนอแนะให้ครอบคลุมทุกมิติ
เพชรบุรี วิกฤตินมโรงเรียน -สหกรณ์โคนมชะอำ-ห้วยทรายวอนรัฐบาลช่วยเหลือ นมล้นตลาด เสียหายกว่า1,000ล้านบาท
ฉะเชิงเทรา "พาณิชย์" ยกทัพสินค้าราคาประหยัดจำหน่ายให้พี่น้องชาวฉะเชิงเทรา

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​