“โฆษกทบ.” โต้ “มาลี” กล่าวหาละเมิดข้อตกลง ลั่นหลักฐานทนโท่ ไทยควรเป็นฝ่ายเรียกร้อง “กัมพูชา” มากกว่า

ทบ. โต้ “มาลี โสเจียตา” ไทยควรเป็นฝ่ายเรียกร้อง “กัมพูชา” ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิง มากกว่าเพราะมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงต่อเนื่อง

“โฆษกทบ.” โต้ “มาลี” กล่าวหาละเมิดข้อตกลง ลั่นหลักฐานทนโท่ ไทยควรเป็นฝ่ายเรียกร้อง “กัมพูชา” มากกว่า – Top News รายงาน

จากกรณีที่พลโท มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้ออกมาแถลงเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (21 ส.ค.68) ว่า “กัมพูชาได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อตกลงหลังการประชุม GBC ที่ผ่านมาอย่างเคร่งครัด โดยจะไม่เผยแพร่และไม่สนับสนุนการเผยแพร่ข่าวปลอมหรือข่าวบิดเบือนใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมเรียกร้องให้ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเจรจาสันติภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ รวมถึงการเรียกร้องให้ไทยส่งคืนทหารกัมพูชา 18 นาย ที่ถูกจับกุมตัวกลับสู่กัมพูชาด้วย” นั้น

 

 

ล่าสุดวันนี้ ( 21 ส.ค.68 ) เวลา 15.38 น. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า หากมองภาพตามสถานการณ์จริงแล้ว กลับกันควรเป็นฝ่ายไทยที่ต้องออกมาดำเนินการเรียกร้องเรื่องดังกล่าวต่างหาก เนื่องจากยังคงพบว่ากัมพูชามีความพยายามในการดำเนินการต่างๆ ที่แสดงถึงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทั้งหลักฐานการใช้ทุ่นระเบิด PMN-2  การตรวจพบอากาศยานไร้คนขับบินลาดตระเวนบริเวณชายแดน รวมถึงการแสดงท่าทียั่วยุ หรือตอบโต้ในกิริยาที่ไม่เหมาะสมของทหารกัมพูชาต่อทหารไทย ดังเช่นภาพที่ปรากฏเมื่อทหารกัมพูชาเข้ามาโวยวายประท้วงในระยะประชิดต่อคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว Interim Observer Team หรือ IOT ที่เดินทางไปสังเกตการณ์พื้นที่ที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี เมื่อ 19 ส.ค.68 ที่ผ่านมา

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยการกระทำในข้างต้นล้วนเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่ากัมพูชายังคงมีการดำเนินการที่ขัดหรือละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงในหลายประเด็น ซึ่งหากกัมพูชาต้องการปฏิบัติตามข้อตกลง ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศไทย และประเทศอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการหยุดยิงจะถูกนำไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและสมบูรณ์ ตามที่ได้ออกแถลงการณ์มานั้น จึงขอเรียกร้องกลับต่อฝ่ายกัมพูชาในประเด็นต่างๆ ดังนี้
ขอให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด รวมถึงการหยุดใช้อาวุธ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 ลอบทำร้ายฝ่ายไทย และหยุดเผยแพร่หรือใช้ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ ทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายไทย ทั้งจากฝั่งภาครัฐ หรือการใช้ภาคประชาชนเป็นตัวแทนในการสื่อสารและแสดงออก ตลอดจนหยุดการแสดงท่าทียั่วยุ ด้วยการปลุกระดมหรือปลุกปั่นชาวกัมพูชา และเพิ่มเติมกำลังทหารบริเวณพื้นที่ชายแดน รวมถึงการใช้โดรนบินสอดส่องรุกล้ำน่านฟ้าไทยด้วย
อีกทั้งหยุดกล่าวอ้างหรือแสดงออกว่าเป็นผู้ถูกกระทำต่อกรณีของเชลยศึกทั้ง 18 นาย เนื่องจากกัมพูชาทราบดีอยู่แล้วว่า การปฏิบัติต่อเชลยศึกของฝ่ายไทยเป็นไปตามข้อกำหนดในอนุสัญญาเจนีวา และหลักมนุษยธรรมสากล รวมทั้งได้เปิดโอกาสให้คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) หรือองค์กรที่มีบทบาทหน้าที่ตามกฎหมาย สามารถเข้าดูและตรวจสอบความเป็นอยู่ของทั้ง 18 นายได้ตามแต่สะดวก อย่างเหมาะสมและเปิดเผย
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าฝ่ายไทยยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ด้วยความอดทนอดกลั้นอย่างดีที่สุด เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดี และสอดรับการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพระหว่างสองประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดนาที "เปิ้ล นาคร" เข้าช่วยชีวิตนายกเทศมนตรีเมืองปากพูน
ฉะเชิงเทรา ส่งกำลัง อส. ร่วมภารกิจบรรเทาน้ำท่วมใหญ่หาดใหญ่ ตามคำสั่งผู้บัญชาการ อส.
นครปฐม///รวมน้ำใจคนกำแพงแสน! ช่วยภัยน้ำท่วมใต้ ส่งสิ่งของ 12,000 ชุด ถึงมือผู้ประสบภัยที่หาดใหญ่ทันที
ชมรมพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพอากาศ ร่วมกับกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ป่าไม้สองสี ตัดสลับเขียวส้ม สวยเตะตาในฉงชิ่ง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ไอเดียเจ๋ง! คนงานจีน 'คัดส้ม' ด้วยไม้ 2 ท่อน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​