กรณีนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งถูกศาลเรียกเป็นพยาน นายสมชายกล่าวว่า ผู้ดำรงตำแหน่งนี้ต้องยึดประโยชน์ชาติเป็นหลัก หากให้การเป็นเท็จจะกระทบทั้งตัวเองและประเทศ พร้อมย้ำว่าการเข้าสู่ศาลต้องมือสะอาด และการให้การต้องตั้งอยู่บนความจริง

นายสมชายยังกล่าวถึงความคืบหน้าของคดีที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. ซึ่งเกี่ยวกับการกระทำผิดจริยธรรมและกฎหมายอาญา โดยเฉพาะประมวลกฎหมายอาญาหมวด 3 ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรง กระทบต่อประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ ป.ป.ช. เร่งรัดดำเนินการ หากล่าช้า จะยื่นเรื่องเพิ่มเติมให้เข้าสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ส่วนประเด็นการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก นายสมชาย เผยว่า ตนเคยเสนอให้ลาออกตั้งแต่ต้นเพื่อแสดงความรับผิดชอบ แต่หากนางสาวแพทองธารยังดำรงตำแหน่งจนถึงวันนี้ ยังมีเวลาให้ตัดสินใจลาออกก่อนวันที่ 29 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันศาลนัดวินิจฉัย หากไม่ลาออก เชื่อว่าศาลจะตัดสินโดยยึดหลักนิติรัฐและข้อเท็จจริง

นายสมชาย ย้ำว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นการประพฤติผิดจริยธรรมร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ส่งผลให้ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี เป็นเรื่องความบกพร่องทางการเมือง ไม่จำเป็นต้องถกเถียงเรื่องเจตนา

สำหรับการที่นางสาวแพทองธารลาประชุมคณะรัฐมนตรีและไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ นายสมชายมองว่าอาจเป็นการ “เก็บวาจา” เพื่อเตรียมชี้แจง แต่ในที่สุด ศาลและประชาชนจะได้รับทราบคำตอบที่แท้จริงในวันที่ 21 สิงหาคม 2568