มติก.ต. สั่งลงโทษ 4 ตุลาการทำผิด รวม”ผู้พิพากษา” เรียกรับเงินกปสส.175 ล้าน -ลวนลามจนท.สาวบนรถไฟ
ข่าวที่น่าสนใจ
18 สิงหาคม 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) มีมติลงโทษข้าราชการตุลาการ จำนวน 4 ราย โดยเห็นควรลงโทษภาคทัณฑ์ 2 ราย ไล่ออกราชการ 2 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ เห็นควรสอบสวนเส้นทางการเงินและบุคคลใกล้ชิดด้วย พร้อมส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามขั้นตอนกฎหมายด้วย
โดยเอกสารแถลงข่าวผลการประชุม ก.ต. ระบุรายละเอียดการพิจารณาและมีมติแต่ละรายดังนี้
รายที่ 1
ที่ประชุมได้มีการพิจารณารายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการตุลาการกรณียื่นฟ้องกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ เห็นว่า การกระทำดังกล่าว เป็นการไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและประเพณีปฏิบัติของทางราชการ และจริยธรรมของข้าราชการตุลาการตามที่ ก.ต. กำหนด เพราะเป็นการกระทำอันกระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือเกียรติศักดิ์ของ ก.ต. ในประการที่อาจทำให้ ก.ต. ขาดความเป็นอิสระหรือเสียความยุติธรรม ทั้งเป็นการฟ้องร้องดำเนินคดีแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยปราศจากเหตุผลอันสมควร กรณีเป็นการกระทำความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เห็นควรลงโทษภาคทัณฑ์
แต่เนื่องจากข้าราชการตุลาการดังกล่าวพ้นจากราชการไปแล้ว เห็นควรให้งดโทษ
รายที่ 2
พิจารณารายงานผลการสอบสวนวินัยข้าราชการตุลาการ กรณีมีพฤติการณ์เรียกเงินจากคู่ความ อันเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความชื่อสัตย์สุจริต ไม่รักษาชื่อเสียงมิให้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว กระทำความผิดอาญาหรือกระทำการอื่นใด ซึ่งความประพฤติหรือการกระทำดังกล่าวอาจทำให้เสียเกียรติศักดิ์แห่งตำแหน่งหน้าที่ราชการ และไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและประเพณีปฏิบัติของทางราชการและจริยธรรมของข้าราชการตุลาการตามที่ ก.ต. กำหนด กรณีเป็นการกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง เห็นควรลงโทษไล่ออกจากราชการ และเห็นควรส่งข้อมูลการดำเนินการสอบสวนวินัยดังกล่าวให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
รายที่ 3
พิจารณารายงานผลการสอบสวนข้าราชการตุลาการกรณีกระทำการในลักษณะคุกคามทางเพศ ทำร้ายร่างกาย และทำให้ทรัพรัพย์สินของผู้ร้อง ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับความเสียหาย อันเป็นพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสม ทำให้เสียเกียรติศักดิ์แห่งตำแหน่งหน้าที่ราชการ เป็นการไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบแบบแบบแผนและประเพณีปฏิบัติของทางราชการ และจริยธรรรมของข้าราชการตลาการตามที่ ก.ต. กำหนด เป็นการกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง เห็นควรลงโทษไล่ออกจากราชการ
นอกจากนี้ยังพิจารณารายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการตุลาการรายนี้ กรณีมีคำสั่งอนุญาตใตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ทั้งที่ศาลอทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาต ยกคำร้องไปแล้ว แต่เพื่อละเอียตรอบคอบและให้ได้ข้อเท็จจริงครบถ้วน เห็นควรสอบสวนเส้นทางการเงินของผู้ถูกกล่าวหาและบุคคลใกล้ชิดว่าเหตุที่มีคำสั่งไม่เป็นไปตามระเบียบแบบแผนนั้นเนื่องจากได้รับผลประโยชน์ใด ๆ จากคู่ความในคดีหรือไม่อย่างไร
รายที่ 4
พิจารณารายงานผลการสอบสวนข้าราชการตุลาการกรณีไม่มาปฏิบัติราชการเป็นเวลาเกินสิบห้าวันโดยไม่มีเหตุผลเป็นเหตุให้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไป เป็นการละทิ้งหน้าที่ราชการ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้ที่มีอรรถคดีในศาล เป็นการกระทำความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เห็นควรลงโทษภาคทัณฑ์
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับข้าราชการตุลาการรายแรก เป็นอดีตผู้พิพากษาระดับสูงระดับประธานแผนกที่ไม่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองประธานศาลฎีกา , รายสอง เป็นอดีตรองเลขานุการศาลอุทธรณ์คดีเรียกรับเงินจากแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปสส.) 175 ล้านบาท ในสำนวนที่ส่งให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. อ้างถึงว่าเกี่ยวพันกับอดีตผู้พิพากษาระดับสูงระดับผู้บริหารศาลซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ออกคำสั่งให้เรียกรับเงินดังกล่าว
ส่วนรายที่ 3 เป็นอดีตอธิบดีศาลที่เคยตกเป็นข่าวอื้อฉาว ว่าลวนลาม เจ้าหน้าที่ศาลสาวบนรถไฟ และมีการไปแจ้งความดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปราม รายที่สี่เป็นผู้พิพากษาอาวุโส มีการสั่งให้ส่งใบลาก็ไม่ยอมดำเนินการ (ดูเอกสารประกอบ)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น