“เทพไท” แฉลากไส้ 2 พ่อลูก “ฮุน เซน-ฮุน มาเนต” เดินเกมการทูต 2 หน้า ลั่นทำตัวเป็นนก 2 หัวอยู่ตลอดเวลา

ภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ฝ่ายไทยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาการแทน รมว.กลาโหม เป็นหัวหน้าคณะ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชามี พล.อ.เตีย เซฮา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นหัวหน้าคณะ มีการลงนามข้อตกลง 13 ข้อ

เพื่อเป็นเงื่อนไขในการหยุดยิงกันระหว่าง 2 ประเทศ

หลังจากนั้นนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ได้ยื่นจดหมายต่อคณะกรรมการโนเบล เพื่อเสนอชื่อของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์  ของสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ จากการมีส่วนร่วมทำให้ข้อขัดแย้ง ระหว่างไทยกับกัมพูชายุติลง

การแสดงบทบาทของนายฮุนมาเนต กับสมเด็จฮุนเซน ถือว่าเป็นการดำเนินการทูตแบบตี2หน้า แบ่งหน้ากันทำ ในอดีตที่ผ่านมาประเทศกัมพูชา ได้รับการสนับสนุนการลงทุน หรือกิจการต่างๆจากประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ สมเด็จฮุนเซนมีความใกล้ชิดกับฝ่ายจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีนักธุรกิจมาลงทุน ช่วยเหลือแล้ว รัฐบาลจีนก็ให้ความสำคัญกับประเทศกัมพูชาในหลายด้าน

หลังจากการเปลี่ยนอำนาจจากสมเด็จฮุนเซน มาเป็นนายฮุนมาเนต ลูกชาย ซึ่งนายฮุนมาเนตมีความใกล้ชิดกับประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากนายฮุนมาเนต เป็นนักเรียนนายร้อยเวสต์ปอยต์ มีเพื่อนเป็นชาวอเมริกันอยู่เป็นจำนวนหนึ่ง และบุคคลเหล่านี้ใกล้ชิด มีคอนเน็คชั่นกับทีมงานของประธานาธิบดีโดนัท ทรัมป์ เมื่อเกิดข้อขัดแย้งชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา และเกิดการปะทะใช้ความรุนแรง ยิงกัน ฝ่ายกัมพูชาเกิดเพลี้ยงพล้ำให้กับประเทศไทย นายฮุนมาเนตก็ใช้คอนเน็คชั่นประสานงานไปยังทีมงานประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ จนมีการยื่นเงื่อนไขให้เจรจาหยุดยิง เพื่อแลกกับข้อเสนอเรื่องกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา จึงเป็นที่มาของข้อตกลงหยุดยิงกัน