นักวิชาการชี้ ไทยเป็นภาคีธรรมนูญศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือศาลโลก แม้ยังไม่ให้สัตยาบันแต่ก็ฟ้องคดีที่กัมพูชาโจมตีพลเรือนไทย ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ ได้ หรือจะให้ประทศภาคีเครือข่ายฟ้องแทนก็ได้

“อ.ปณิธาน” ชี้ 2 ช่องทาง ฟ้องเอาผิด “กัมพูชา” ละเมิดสนธิสัญญา ยิงอาวุธใส่ไทยก่อน ทำร้ายชีวิตผู้บริสุทธิ์ – Top News รายงาน

หลังจากที่ทางการไทย เตรียมยื่นฟ้องคดีอาญา และแพ่ง เพื่อดำเนินคดีกับประเทศกัมพูชา ในระดับโลกนั้น ซี่งเมื่อวานนี้ ( 5 ส.ค.) ทีมข่าวท็อปนิวส์ได้สอบถามเรื่องดังกล่าวไปยัง ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการทางด้านรัฐศาสตร์ ด้านการเมืองเปรียบเทียบ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ประเทศไทยได้ลงนามรับรอง (Authentication) ธรรมนูญกรุงโรม ว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้ให้สัตยาบันรับรองอย่างเป็นทางการ จึงไม่แน่ใจว่าจะสามารถฟ้องร้องดำเนินคดี ได้มากน้อยเพียงใด

แต่ก็มี 2 แนวทาง คือ รัฐบาลดำเนินการไปก่อนเอง หรือให้ประเทศที่เป็นภาคีเครือข่าย ซึ่งให้สัตยาบันแล้วเป็นผู้ฟ้องแทน ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีตัวอย่าง เช่นคดีที่ประเทศแอฟริกาใต้ ฟ้องอิสราเอล ในสงครามปาเลสไตน์ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะต้องมีการล็อบบี้กันอย่างไร

ข่าวที่น่าสนใจ

“ภูมิธรรม” สั่งการผ่านครม.เตรียมร่างฟ้อง “กัมพูชา” อาญา-แพ่ง ระดับโลก เอาผิดเขมรเปิดฉากยิงไทยก่อน ทำพลเรือนผู้บริสุทธิ์ตายเจ็บ

สำหรับประเทศกัมพูชา เท่าที่จำได้เป็นหนึ่งในภาคีเครือข่าย เนื่องจากต้องการใช้อำนาจจากศาลโลก ในการจัดการกับกลุ่มผู้นำเขมรแดง ที่นำโดยนายพอลพต โดยมีการจัดตั้งศาลพิเศษขึ้นมาชำระคดีในเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

สำหรับประเด็นในเรื่องการฟ้องร้องทางแพ่ง กรณีที่เกิดความขัดแย้ง และมีการสู้รบระหว่าง 2 ประเทศ ที่ผ่านมา ไม่ค่อยมีปรากฏ เพราะถือว่าเป็นสถานะสงคราม แต่ก็มีการเรียกค่าเสียหายอยู่เหมือนกันในสงครามใหญ่ ๆ ที่ผ่านมา ทั้งสงครามโลก และสงครามรัสเซีย แต่สงครามที่จำกัดขอบเขต และพื้นที่ตามแนวชายแดนจะไม่ค่อยพบเท่าไรนัก และค่าเสียหายที่เรียกร้องกันนี้ จะเป็นคนละประเภทกับค่าปฏิกรรมสงคราม แม้จะมีการเรียกค่าเสียหายเหมือนกัน ก็อยู่คนละหมวดกัน

โดยค่าปฏิกรรมสงคราม จะมีผู้แพ้ผู้ชนะสงคราม และเป็นสภาพบังคับแต่การเรียกค่าเสียหายนี้ จะมีกลไก และองค์กรกลางเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมคดีอาญาระหว่างประเทศมากขึ้น เช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชน

อย่างไรก็ตาม กรณีการสู้รบระหว่างไทย และกัมพูชา ยังไม่ถึงสถานะสงคราม จึงไม่แน่ใจว่าจะมีผลเป็นการลดทอน และหักล้างคำกล่าวอ้างของเราเองหรือไม่ และกัมพูชาเองก็คงจะหยิบยกขึ้นมากล่าวอ้างว่า เราเองก็ไม่คิดว่าเป็นสภาวะสงคราม

ทั้งนี้ อ.ปณิธาน บอกด้วยว่า หากประเทศไทยตัดสินใจ จะนำข้อพิพาทนี้ขึ้นสู่ศาลโลกจริง ก็จะต้องนำเรื่องเสนอสู่สภาความมั่นคง ซึ่งทราบว่าผ่านแล้ว ก็ต้องนำเรื่องนี้ไปแจ้ง ครม.แล้วจึงนำเข้าสภาฯ เพื่อรับทราบ และอาจจะไม่ต้องอนุมัติจากสภาก็ได้ เพราะถือว่าเป็นอำนาจโดยตรงของฝ่ายบริหารที่จะฟ้องร้อง ไม่ได้เกี่ยวกับกับอำนาจอธิปไตย โดยหน่วยงานที่จะเข้ามาขับเคลื่อน และดำเนินการฟ้องจะเป็นของอัยการกองการต่างประเทศ ร่วมกับกรมสนธิสัญญา และทหาร

ในเบื้องต้น ไทยเป็นภาคีย่อมมีสิทธิในการฟ้องคดีระดับหนึ่ง ประกอบกับไทยฟ้องในฐานะผู้เสียหาย ก็ต้องพิจารณาว่า เรามีสิทธิในการดำเนินคดีมากน้อยแค่ไหน หรือจะมีสิทธิบังคับคดีได้แค่ไหน ก็ต้องมาพิจารณาอีกที

กัมพูชา, อ.ปณิธาน, ฟ้องเอาผิดกัมพูชา, ละเมิดสนธิสัญญา, ยิงอาวุธใส่ไทยก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง