จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อยากชี้แจงว่า สถานพยาบาล เป็นสถานที่สำหรับดูแลผู้ที่เจ็บป่วยและได้รับบาดเจ็บ เป็นสถานที่ที่ช่วยชีวิตคน ไม่ใช่เป้าหมายโจมตีในภาวะสงคราม หรือภาวะสู้รบกันตามแนวชายแดน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นปรากฏว่า ฝ่ายตรงข้ามเลือกที่จะเอาเราเป็นเป้าหมาย ไม่ใช่เฉพาะอาคาร เพราะถ้าวันนั้นไม่มีการอพยพ ไม่มีแผนการเคลื่อนย้ายประชาชน คงมีการสูญเสียมากกว่านี้ การกระทำของฝั่งตรงข้าม จึงแสดงให้เห็นถึงความไร้มนุษยธรรม

จากนั้น คณะทูตได้สำรวจความเสียหาย ถ่ายภาพจุดที่เป็นรอยแตกร้าวที่กำแพง และได้ถามย้ำว่า ขณะเกิดเหตุมีผู้ป่วยอยู่หรือไม่ ซึ่งทางผู้อำนวยการ รพ.สต. ระบุว่า จุดนี้ไม่มีการสูญเสีย เพราะอพยพคนไปตามแผนแล้ว แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นก็ ส่งผลกระทบต่อจิตใจของประชาขน และคนที่นี่ เพราะหากไม่อพยพไป จะสูญเสียมากกว่านี้

ด้านพลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก บอกว่า การลงพื้นที่ของทูตทหารเอกอัครราชทูต และสื่อมวลชนนานาชาติ ครั้งนี้ เป็นการลงมาเห็นพื้นที่จริง ได้มาพบปะพูดคุยกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ เอกอัครราชทูต และทูตทหารจะได้รับกลับไป