รอยเตอร์สรายงานว่านายฌอน โอนีล ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงเทพกล่าวระหว่างการตอบคำถามต่อสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 29 กค.) ว่าเหตุปะทะที่แนวพรมแดนไทย-กัมพูชาเป็นเวลา 5 วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 43 คนและพลัดถิ่นมากกว่า 3 แสนคนไม่ส่งผลดีต่อประชาชนชาวไทย ไม่ช่วยคลี่คลายปัญหาที่ทั้งสองกำลังเผชิญอยู่และไม่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ มีแต่จะทำให้เกิดความสูญเสียอย่างไม่จำเป็นทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
โอนีลยังกล่าวด้วยว่ารัฐบาลไทยไม่ควรยื่นความชอบธรรมให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งหากได้รับการแต่งตั้งให้ไปเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยตามคาด เขาจะเรียกร้องรัฐบาลไทยไม่ให้รับรองการเลือกตั้งของเมียนมาที่จะมีขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือปลายปีนี้ (2568) เนื่องจากเป็นการเลือกต้้งที่ครอบคลุมพื้นที่ไม่ถึง 50% ทั่วประเทศขณะที่ผู้นำฝ่ายค้านส่วนใหญ่ก็อยู่ในเรือนจำ
ทั้งนี้โอนีลเคยเป็นกงสุลใหญ่ประจำจังหวัดเชียงใหม่สองสมัย
วิกรม เนห์รู นักวิเคราะห์ที่สถาบันจอห์น ฮอบคิ่นส์กล่าวว่าไทยและกัมพูชาควรต้องพักแนวคิดเรื่องชาตินิยมเอาไว้ก่อน ชี้สันติภาพระยะยาวต้องใช้การผ่อนปรนจากทั้งสองฝั่ง
ขณะที่เว็ปเพจ U.S. Indo-Pacific Command รายงานเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 29 กค.) ว่าคณะผู้แทนของกองทัพกัมพุชาได้เดินทางเยือนแคมป์สมิธของสหรัฐเพื่อเข้าร่วมประชุมสองฝ่ายด้านกลาโหม โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายความร่วมมือด้านการทหารระหว่างกัน โดยจะมุ่งเน้นเรื่องการฝึกซ้อมร่วม, การให้ความรู้ด้านการทหารแบบมืออาชีพและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ทั้งนี้การประชุมด้านกลาโหมสหรัฐ-กัมพูชาเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2560 ตอกย้ำถึงความร่วมมือด้านการทหารของสองประเทศที่เติบโตขึ้นต่อเนื่อง และปีนี้ก็ครบรอบ 75 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตสหรัฐ-กัมพูชา