ไอโอเลวร้าย "สถานทูตกัมพูชา" บัลแกเรีย โกหกโลก "ไทย" ทิ้งระเบิดร้านค้าตัวเอง "โฆษกกลาโหม เขมร" ปล่อย Fake news แก๊สพิษ
ข่าวที่น่าสนใจ
28 ก.ค. 2568 เพจเฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำบัลแกเรีย ยังได้โพสต์ภาพและข้อความบิดเบือนใสร้ายรัฐบาลไทยอีกว่า รัฐบาลไทยทิ้งระเบิดใส่เซเว่นอีเลฟเว่นของตัวเอง! แล้วก็ฆ่าพลเมืองตัวเอง แล้วก็พยายามจะใส่ร้ายกัมพูชาว่าร้าย! ร้านอยู่ห่างจากชายแดน 120 กิโลเมตร ไม่มีทางที่ BM-21 ของเราจะยิงได้ไกลขนาดนั้น ในเมื่อพิสัยการยิงสูงสุดของ BM-21 มีแค่ 30-40 กิโลเมตรเท่านั้น กลยุทธ์ของพวกเขาคือสร้างความวุ่นวาย ฆ่าพลเมืองตัวเองเพื่อเรียกคะแนนเสียงจากทั่วโลก
ทั้งนี้ได้มีชาวเน็ตไทยเข้าไปคอมเมนต์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่า
-เป็นถึงสถานทูตยังให้ข่าวเท็จ ประเทศมีงนี่มันเกินเยียวยา
-เพจสถานทูตคือตัวแทนรัฐบาลอย่างเป็นทางการ แต่กลับขึ้นเฟกนิวส์ ก็ดีนะ เดี๋ยวต่างชาติจับได้ ความเชื่อถือของรัฐบาลกัมพูชาจะเหลือศูนย์ทันที
-ผู้นำเขมรตอแหลเป็นสันดาน
-หลอกกันเองไม่พอ พาไปกันไปหลอกชาวโลกอีก
-ขนาดเป็นสถานทูตยังตอแหล ประเทศพวกมึงไม่มีอะไรเชื่อถือได้สักอย่าง
ด้านพลตรีวิทัย ลายถมยา โฆษกกองทัพไทย กล่าวว่า กองทัพไทยขอปฏิเสธอย่างเด็ดขาดต่อคำกล่าวอ้างของพลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่ระบุว่ากองทัพไทยได้รุกล้ำดินแดนกัมพูชาและใช้อาวุธเคมีในการปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง และเป็นการบิดเบือนข้อมูลอย่างร้ายแรง
ประเทศไทยไม่เคยมีนโยบายในการพัฒนา ผลิต ครอบครอง หรือใช้อาวุธเคมีในทุกกรณี โดยยึดมั่นในพันธกรณีตามอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามอาวุธเคมีอย่างเคร่งครัด ทั้งยังปฏิบัติหน้าที่ภายใต้หลักมนุษยธรรมสากล โดยให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ในทางกลับกัน โฆษกกลาโหมกัมพูชา กลับใช้ “ข้อมูลข่าวสารปลอม” เป็นเครื่องมือทางยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเองในสายตาประชาคมโลก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เพียงแต่ขาดความรับผิดชอบ แต่ยังถือเป็นการกระทำที่แฝงด้วยเล่ห์เพทุบาย บิดเบือนความจริง และเป็นภัยต่อสันติภาพในภูมิภาค
กองทัพไทยมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติและความปลอดภัยของประชาชน ตามหลักการสากลและสิทธิตามกฎหมายระหว่างประเทศ การดำเนินการของฝ่ายไทยจึงเป็นการตอบสนองที่จำเป็นและยับยั้งภัยคุกคามจากฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นผู้เปิดฉากการยั่วยุและการใช้กำลังก่อน
โฆษกกองทัพไทย ยืนยันอีกว่า ประเทศไทยจะไม่ยอมให้ความเท็จของฝ่ายใดมากลบเสียงของความจริง และจะดำเนินการชี้แจงต่อประชาคมระหว่างประเทศอย่างถึงที่สุด เพื่อให้เห็นถึงพฤติกรรมที่บิดเบือน เสื่อมเสีย และละเมิดหลักกฎหมายมนุษยธรรมของผู้นำกัมพูชา ซึ่งอาจเข้าข่าย “อาชญากรรมสงคราม” อย่างชัดเจน ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกตระหนักถึงพฤติกรรมดังกล่าว และร่วมกันประณามการใช้ข้อมูลเท็จเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงในเวทีสากล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง