“หมอตุลย์” ถึงน้ำตาไหล ทนไม่ได้ประเทศโดนเขมรย่ำยี ทหารเหยียบบึ้มขาขาด จวกรัฐบ้อท่าแก้จนปัญหาบานปลาย

นพ.ตุลย์ ลั่น น้ำตา ซัดรัฐไร้ผู้นำตัวจริง-กลาโหมยังว่าง หลังเห็นพฤติกรรมทหารกัมพูชาผลักอกทหารไทย คนกัมพูชาดูหมิ่นทหารไทย เผยรับไม่ได้รัฐบาล ทำอะไรอยู่ หรือต้องให้ประชาชนจัดการกันเอง

“หมอตุลย์” ถึงน้ำตาไหล ทนไม่ได้ประเทศโดนเขมรย่ำยี ทหารเหยียบบึ้มขาขาด จวกรัฐบ้อท่าแก้จนปัญหาบานปลาย – Top News รายงาน

 

หมอตุลย์

 

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ช.นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และแกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี เปิดเผยถึงกระแสข่าวการประชุมของกลุ่ม “รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย” ซึ่งมีการนัดหารือร่วมกันในวันนี้ โดยระบุว่า การพูดคุยมีสองประเด็นสำคัญ ได้แก่ เรื่องการพักโทษของนายทักษิณ ชินวัตร ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 และประเด็นสถานการณ์ชายแดน ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ใหญ่และเร่งด่วนกว่า

นพ.ตุลย์ กล่าวว่า หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา กลุ่มรวมพลังแผ่นดินเคยจัดการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างจริงจังกับรัฐบาล แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้า นายกรัฐมนตรีก็ยังไม่ลาออก ยังไม่มีคำวินิจฉัยชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงยังไม่มีการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพ โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 2 เป็นไปอย่างติดขัด ล่าสุดมีเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิด ได้รับบาดเจ็บ ถือเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายลงเรื่อย ๆ

 

อีกทั้งในวันนี้กลุ่มรวมพลังแผ่นดินจะหารือกันอย่างจริงจัง เพื่อวางแนวทางว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไรต่อรัฐบาล และจะมีการเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยเร็วที่สุด หากสุดท้ายตัดสินว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไม่มีความผิด ก็ให้กลับมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ แต่หากมีความผิด ก็ต้องถอดถอนออกจากตำแหน่ง เพื่อให้ประเทศมีผู้นำตัวจริงโดยเร็วที่สุด

ยิ่งปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อ ประเทศชาติก็ยิ่งเสียประโยชน์ ประชาชนจำนวนมาก รวมถึงตัวผมเอง มองว่าประเทศไทยต้องมีนายกรัฐมนตรีที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เพื่อให้กระทรวงต่างๆ โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามถึงแนวทางการขยายกลุ่มเคลื่อนไหวไปยังต่างจังหวัด นพ.ตุลย์ เปิดเผยว่า จะเริ่มเคลื่อนไหวเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือที่เรียกว่า “เขมรสูง” ได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ต่อเนื่องลงมาที่สระแก้ว จันทบุรี และตราด รวม 7 จังหวัดหลัก พร้อมทั้งพื้นที่อื่นๆ ที่ประชาชนให้ความสนใจ ก็จะเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการ กระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพ ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติอย่างเต็มความสามารถ

การชุมนุมใหญ่ไม่ใช่สิ่งที่จัดขึ้นได้ง่ายๆ แต่หากสถานการณ์ขยายตัวหรือรุนแรงมากขึ้น เราอาจต้องใช้มาตรการพิเศษ (‘ช็อตคัต’) ตามที่เคยประกาศไว้ว่า หากกลางเดือนสิงหาคมยังไม่มีความชัดเจน ประชาชนอาจไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป

 

 

นพ.ตุลย์ กล่าวย้ำว่า การเคลื่อนไหวในครั้งที่ผ่านมาเกิดขึ้นจากกรณีคลิปเสียงที่ไม่มีการขอโทษอย่างเป็นทางการ แม้จะใช้เวลานานกว่าจะมีคำขอโทษออกมา หลังจากนั้นสมาชิกวุฒิสภากลุ่มหนึ่งก็ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าเข้าข่ายการประพฤติผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น ย่อมถือว่าไม่มีคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ปัจจุบันจะไม่อดทนอดกลั้นอีกต่อไปแล้วใช่หรือไม่ นพ.ตุลย์ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ใครจะยอมได้ล่ะครับ ผมยอมไม่ได้ และผมเชื่อว่าคนไทยเกือบทั้งประเทศก็ยอมไม่ได้ เพราะภาวะอันตรายนี้รับไม่ได้”

ก่อนที่เจ้าตัวจะเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า และกล่าวต่อว่า “ขอโทษนะครับ ไม่ใช่แค่ทหารที่เหยียบกับระเบิดแล้วขาขาด ภาพข่าวที่ชาวกัมพูชาเข้ามาผลักอกคนไทย ชี้หน้า ด่าทอทหารไทย ใครจะยอมได้บ้าง ต้องบอกว่า ตอนนี้ทหารและประชาชนไทยทั้งประเทศอดกลั้นกันอย่างเต็มที่ ถ้าเรื่องมันเลวร้ายไปกว่านี้ แล้วไม่มีใครจัดการอะไร ประชาชนก็จะลุกขึ้นมาทำเองครับ”

นพ.ตุลย์ ระบุว่า ทุกวันนี้มันแย่มากครับ รัฐบาลดูเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร ลองขาขาดเองไหมครับ ลองไปลาดตระเวนชายแดนเองไหมครับ ถ้าพื้นที่ที่เป็นของไทยตั้งแต่ก่อนผมเกิดยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบ แล้วจะให้ประชาชนไว้ใจใครได้อีก?

นพ.ตุลย์ ยังย้ำด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเลวร้าย และประชาชนทั่วประเทศรับรู้ได้ หากใครไม่รู้สึก ก็ขอพูดตรงๆ ว่า “ไม่ใช่คนไทย” พร้อมวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันว่าล่าช้าเกินไป แม้จะมีการเชิญทูตทหารมาหารือ แต่ยังไม่เพียงพอ ต้องผลักดันให้เรื่องไปถึงเวทีระดับโลก เช่น สหประชาชาติ (UNSC), ศาลระหว่างประเทศ, หรือองค์กรระดับสากลอย่าง ICC หรือ ICJ โดยเร่งด่วน

 

“ ผมเข้าใจรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ท่านก็พยายามทำหน้าที่แล้ว แต่กระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ต้องตอบสนองทันที จะเห็นได้ว่ากัมพูชาเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมหมดแล้ว แม้จะไม่ควรฟ้องเขาก็ฟ้อง เราถามกลับไปว่าตอนนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือกองทัพ มีแผนรับมือหรือยัง? ไม่มีเลย ทุกคนก็แค่ด่าทหารว่าไม่มีประโยชน์ ทั้งที่จริงๆ หน่วยงานอย่าง IO ก็ยังไม่ออกมาชี้แจงอะไร ถึงเวลาแล้วที่พวกเขาต้องทำหน้าที่ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ” นพ.ตุลย์ กล่าว

รวมถึง ต้องประกาศให้คนทั้งประเทศรู้ว่าประเทศไทยกำลังถูกรุกราน และต้องดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศให้ชัดเจน หากไม่ทำ ประชาชนจะออกมาบอกเองว่า พอแล้ว ออกไปเถอะ เดี๋ยวประชาชนจะทำเอง

ท้ายที่สุด นพ.ตุลย์ กล่าวว่า เชื่อว่าทหารไทยกำลังพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการวางแนวป้องกันหรือทำให้ประชาชนปลอดภัยจากเหตุปะทะ แต่สิ่งที่ขาดคือ “การสนับสนุนจากรัฐบาล” วันนี้สถานการณ์ชายแดนตึงเครียดมาก ถ้าคุณอยู่ในชายแดน คุณจะรู้ว่าความรู้สึกมันย่ำแย่แค่ไหน ทุกคนไม่รู้เลยว่าเมื่อไรจะยิงกัน ผมเห็นใจทหารทั้งสองฝ่ายที่พยายามไม่ให้เกิดความขัดแย้ง

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

Warrix ร่วมส่งแรงใจ สร้างเยาวชนคิดดี
"คิดดีCool the World" เปิดเวทีเยาวชนคิดดี สร้างสรรค์แคมเปญลดโลกร้อน
"เสธ.เบิร์ด" เปิดชื่อ 2 ผบ.เขมร อยู่เบื้องหลัง ลอบกัดวางทุ่นระเบิดใหม่ หมายสังหารทหารไทย
เปิดแผน "จักรพงษ์ภูวนาถ" ผบ.ทบ.สั่ง "มทภ.1-2" เตรียมพร้อม ตอบโต้กัมพูชา กองทัพไทย เคยใช้ปราบทหารเขมร ศึกพระวิหาร ปี 54
พายุวิภา ! พัดนาทีเดียวร้านค้ากว่า 50 ร้าน หน้าตลาดสด ล้มระเนระนาด นายกแจ็คนำกำลัง สท.คลองใหญ่เร่งช่วยเหลือ
จีน-สหรัฐเตรียมหารือดีลการค้ารอบสามสัปดาห์หน้า

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​