โกลเบิล ไทม์ส (Global Times) สื่อจีนรายงานวันนี้ (อังคารที่ 22 กค.) กรณีสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐออกมาขู่จะหยิบยกประเด็นจีนซื้อน้ำมันจากรัสเซียและอิหร่านขึ้นมาเป็นเงื่อนไขในการเจรจาการค้าและต่อรองอัตรากำแพงภาษีในการพูดคุยรอบหน้าซึ่งกำลังจะมีขึ้นในเร็วๆนี้ ขณะที่ลินด์เซย์ แกรม วุฒิสมาชิกสหรัฐก็ออกมาประสานเสียงเตือนระหว่างให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์นิวส์ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรกับประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย โดยเฉพาะจีน อินเดียและบราซิล พร้อมขู่สำทับว่าสหรัฐจะบดขยี้เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้
โดยผู้เชี่ยวชาญจีนออกมาชี้ว่าคำขู่ของสหรัฐสะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐกำลังหงุดหงิดกับความล้มเหลวที่ไม่สามารถสงบศึกรัสเซียกับยูเครน พร้อมเตือนด้วยว่าหากสหรัฐคิดจะเอาการเจรจาการค้าและกำแพงภาษีเป็นเครื่องมือต่อรองและบีบบังคับจีนให้ยอมก้มหัวให้สหรัฐและช่วยสหรัฐทำลายเศรษฐกิจรัสเซียเพื่อกดดันรัสเซีย ขอบอกเลยว่าสหรัฐจะประสบความล้มเหลวอย่างแน่นอน เพราะจีนจะไม่ยอมถูกกดดันในเรื่องนี้ พร้อมเตือนกลับว่าความพยายามของสหรัฐอาจทำให้การเจรจาการค้ากับจีนเสี่ยงที่จะล้มเหลวถ้าสหรัฐเอาเรื่องนี้มาเป็นเงื่อนไขต่อรอง
ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญจีนที่มหาวิทยาลัยฝูต้านเชื่อว่าจีนน่าจะยืนกรานให้การเจรจามุ่งแต่เรื่องการค้า ไม่เกี่ยวกับปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และไม่มุ่งโจมตีประเทศที่สาม
ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์นิวส์ แกรมกล่าวว่าจีน, อินเดียและบราซิลซื้อน้ำมันราคาถูกจากรัสเซียมากถึง 80% และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้รัสเซียสามารถเดินหน้าทำสงครามกับยูเครนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นทรัมป์จะเก็บภาษีประเทศเหล่านี้ในอัตรา 100% เพื่อลงโทษที่ช่วยปูติน
ด้านฮิวโก้ ดิ๊กสัน นักวิเคราะห์ของรอยเตอร์สก็ออกมาเตือนเช่นกันว่าคำขู่ของทรัมป์เป็นเรื่องอันตรายและเป็นการขุดหลุมพลางฝังตัวเอง เพราะเขาเชื่อว่าจีน, อินเดีย,และบราซิลจะไม่ยอมรับเงื่อนไขของทรัมป์ และจะยิ่งเป็นการยกระดับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนให้รุนแรงขึ้น และสุดท้ายก็จะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐเอง