รัฐมนตรี "สรวงศ์" ร่วม ถกภาครัฐ-เอกชน พัทยา ฟื้นฟูความเชื่อมมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมดึงกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ในช่วงครึ่งปีหลัง
ข่าวที่น่าสนใจ
ด้านพลตำรวจโท ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้นำเสนอมาตรการการดูแลนักท่องเที่ยวที่มีการดำเนินอยู่ในขณะนี้ ว่า ตร.ภาค 2 ได้มีการบูรณาร่วมกับทุกภาคส่วนในการพลิกโฉมแนวทางมาตรการแบบใหม่ร่วมกัน ด้วยการนำเทคโนโลยี AI และนำ Big Data มาพลิกโฉในการดูแลนักท่องเที่ยวเพื่อทำให้เมืองพัทยาเป็น SUPER Safe City Sandbox โดยการมีการติดตั้งระบบ Big Data เพื่อรวบรวมข้อมูลอาชญากรรม วิเคราะห์แนวโน้มอาชญากรรม พร้อมติดตั้งกล้อง AI ในพื้นที่จุดเสี่ยง รวมถึงพื้นที่จัดกิจกรรมสำคัญ ๆต่าง ๆ ซึ่งกล้องAI ดังกล่าวจะจดจำใบหน้าบุคคลตามหมายจับ บุคคลเฝ้าระวัง รวมถึงบุคคลพิเศษที่เข้ามาในพื้นที่พิเศษจับตาเป็นกรณีพิเศษ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานอกจากมีการติดตั้งกล้องAI และ Big Data แล้ว ยังได้ร่วมกับเมืองพัทยาในการจัดสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเกิดเหตุอาชญากรรม โดยได้มีการทดลองในพื้นที่นาจอมเทียนในหลายพื้นที่มีการกวาดล้างกลุ่มแก๊งค์ที่จะเข้ามาค้ายาเสพติดและก่อกวนอาชญากรรมและนักท่องเที่ยว เมืองพัทยาได้มีการลงพื้นที่จัดสภาพแวดล้อมใหม่พร้อมติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง จนทำให้ปัจจุบันหลายพื้นที่ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นแหล่งเพาะเชื้ออาชญากรรมลดลงอย่างมาก
ขณะที่พลตำรวจโท ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ชี้แจงแผนมาตรการดูแลความปลอดภัยและให้ความช่วยเหลือ นทท. ว่า ตำรวจท่องเที่ยว ๆ มีการนำรถบริการนักท่องเที่ยวเคลื่อนที่ (CCOC Mobile) ให้บริการและช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่ต่าง ๆ โดยศักยภาพในการทำงานงานของ รถ CCOC Mobile มีด้วยกันหลัก ๆ 4 ด้าน ประกอบด้วย 1. มีกล้องหน้า-หลังรถ เพื่อตรวจสอบบุคคลตามหมายจับ ด้วยระบย AI 2. เมื่อนักท่องเที่ยวกด SOS ในแอปพลิเคชัน Thailand Tourist Police (TPB-APP) ก็จะมาขึ้นที่หน้าจอของรถ และจะทำให้ทราบพิกัดในการให้ความช่วยเหลือได้ทันที 3. หน้าจอประชาสัมพันธ์ ซึ่งจะใช้ประชาสัมพันธ์ในส่วนของรัฐบาลและกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวต่าง ๆ และ 4.กรณีมีเหตุหรือมีการร้องขอความช่วยเหลือก็จะมีโต๊ะให้บริการอยู่บนรถกับนักท่องเที่ยวได้ ทั้งนี้รถ CCOC Mobile จะมีสายด่วน 1155 รองรับ 8 ภาษา คือ อังกฤษ, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, รัสเซีย, ฝรั่งเศส, เยอรมัน และฮินดู อีกทั้งยังสามารถใช้แอปพลิเคชัน Thailand Tourist Police (TPB-APP) เพื่อขอความช่วยเหลือและข้อมูลต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์
ใน่สวน นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่า อำเภอบางละมุงมีรูปแบบการท่องเที่ยวครบทุกมิติ มีทั้งการท่องเที่ยวเชิงวิถะรรมชาติ ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยขณะนี้อำเภอบางละมุงร่วมกับเมืองพัทยา สภ.บางละมุงเตรียมจัดระเบียบวินจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่เมืองพัทยา โดยจะมีการอักเดทรายชื่อคนขับให้ตรงกับวิน พร้อมปรับภาพลักษณ์คนขับขี่ พร้อมจัดทำเสื้อวิน ซึ่งข้างหลังซื้อคนขับจะมีชื่อ รูปหน้า เบอร์โทร และคิวอาร์โค้ดบอกประวัติคนขับขี่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน เป็นต้น
ทั้งนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวพัทยา ได้สะท้อนปัญหาการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา ว่า ขณะนี้สถารณ์การท่องเที่ยวในพัทยาซบเซาเป็นอย่างมากด้วยหลากหลายปัจจัย อีกทั้งนักท่องเที่ยวมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่ต่างไปจากเดิม รวมถึงตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่หายทั้งไม่เชื่อมั่นด้านความปลอดภัย แม้ประเทศไทยจะมีความปลอดภัยก็ตาม อีกทั้งขณะนี้ประเทศไทยถูกโจมตีเรื่องของราคาอาหารที่สูง ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไป อีกทั้งระบบปัญหาโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ยังไม่มีประสิทธิภาพจึงอยากให้เร่งแก้ไขปัญหาจุดนี้ ทั้งนี้อยากจะฝากให้ติดตามการเดินหน้าสนามบินอู่ตะเภาที่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ด้วยอาจจะติดปัญหาในเรื่องของรถไฟฟ้าความเร็วสูง 3 สนาม ที่ยังไม่คืบหน้า รวมถึงการสร้างรันเวย์แห่งที่ 2 ของสนามบินอู่ตะเภาที่ทางรัฐบาลที่ให้ ทหารเรือเป็นผู้ลงทุนเองทราบว่าได้ผู้รับเหมาแล้วแต่ยังไม่คืบหน้า ทั้งนี้อยากจะฝากว่าสนามบินในภูมิภาคมีความสำคัญต่อการเดินทาวมาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว ไม่อยากให้ภาครัฐรอเพียงมี Demand แล้วค่อยลงทุน เมื่อมีการลงทุนแล้วเกิดความสะดวกนักท่องเที่ยวก็จะมีการเดินทาวมาเอง
อนันต์ กิ่งสร ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง